เพื่อส่งเสริมศักยภาพทุกด้านของลูก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสนใจวิธีการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ เพราะในช่วงขวบปีแรกเป็นช่วงเวลาเด็กจะสามารถพัฒนาทักษะได้ดีที่สุด และวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้ทุกวันก็คือการอ่านนิทานให้เจ้าตัวน้อยฟัง มาดูเหตุผลดีๆ ที่ควรเล่านิทานให้ลูกฟัง ดังนี้
1. นิทานสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว ช่วงเวลาดีๆที่พ่อจะเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟังเวลาสบายๆแห่งความรัก ความอบอุ่นที่จะสร้างความผูกพันและนำไปสู่ความเชื่อมั่นที่จะเสริมสร้าง ปัญญาของเด็กๆได้เป็นอย่างดี
2. นิทานช่วยปลูกฝังให้เด็กเป็นคนช่างคิด ช่างถามและช่างสังเกต เป็นโอกาสที่จะทำให้เด็กมีความฉลาด มั่นใจ และ แสดงความคิดเห็นถูกจังหวะ หรือที่เรียกว่ามีความฉลาดทั้งทางปัญญา (IQ) และฉลาดทางอารมณ์ (EQ)
3. นิทานช่วยให้เด็กเรียนรู้ภาษา การฟังนิทานจะทำให้เด็กได้รู้จักรูปประโยค การใช้ภาษาความหมายของคำ และเกิดทัศนคติที่ดีต่อการเรียนในอนาคต
4. นิทานทำให้เด็กจับประเด็นและวิเคราะห์ได้ดี การฟังซ้ำๆเด็กจะจำเรื่องราวได้ทั้งหมดและเด็กจะรู้จักมองสิ่งที่อยู่รอบตัว เข้าใจเรื่องได้ง่าย ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่จะจับประเด็นรวมทั้งการย่อความ
5. นิทานช่วยกระตุ้นจินตนาการของเด็ก น้ำเสียงที่เล่าเรื่องจะกระตุ้นให้เด็กสร้างจินตนาการเป็นภาพการเล่านิทาน บ่อยๆจึงเป็นการสร้างจินตนาการไปพร้อมๆกับการรับรู้เรื่องใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน
6. นิทานช่วยบ่มเพาะคุณธรรมแก่เด็ก เพราะนิทานส่วนใหญ่สอดแทรกคุณธรรม ทักษะชีวิตหรือข้อคิดต่างๆที่ทำให้เด็กได้ตระหนักถึงคุณงามความดีและนำไป ปรับใช้ในชีวิตเมื่อโตขึ้น
7. นิทานช่วยสร้างสมาธิ ช่วงเวลาของการเล่านิทาน เด็กมักจะฟังนิทานอย่างตั้งใจหากเลือกเล่านิทานที่เหมาะกับช่วงวัยจะทำให้ เด็กเข้าใจ อยากรู้และติดตามต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นถือเป็นการสร้างสมาธิให้กับเด็กได้ เป็นอย่างดี
8. นิทานช่วยสร้างเด็กให้มีความรู้ และความฉลาดทางอารมณ์ หากเด็กชอบฟังนิทานเด็กก็จะปรับตัวและสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ เพื่อจะได้ฟังนิทานจากผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาและปรับตัวเพื่อให้อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
9. นิทายช่วยสร้างนิสัยรักการอ่าน การเล่าหรือการอ่านนิทานให้เด็กฟังจะช่วยปลูกฝังนิสัยรักการอ่านเพราะการ อ่านจะทำให้มีสมาธิ และอ่านหนังสือได้รวดเร็ว
10. นิทานสร้างความรู้สึกไม่ได้กำลังถูกสอนให้กับเด็กเพราะเนื้อหาของนิทานจะมีขั้นตอนในการสร้างความเข้าใจรวมทั้งวิธีการแก้ปัญหาและบทสรุปของเรื่องที่ ให้ข้อคิดต่อเรื่องนั้นๆ
ขอบคุณสาระดีๆจากทาง : สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.)