นายกมล รอดคล้าย ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงการเตรียมการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนกวดวิชาในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ตามแนวนโยบายของ น.ส.ศศิธาธา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดศธ. ที่กำชับว่าต่อจากนี้ไป ศธ.จะต้องเข้าไปดูแลโรงเรียนกวดวิชาทั่วประเทศอย่างเข้มข้น หลังจากเกิดเพลิงไหม้โรงเรียนกวดวิชาครูแจ๋ว จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยมอบกรอบการดำเนินงาน 3 ส่วน ส่วนแรกจะมอบผู้ตรวจราชการ ศธ. ทุกเขตพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ลงพื้นที่เอกซเรย์โรงเรียนกวดวิชาในพื้นที่รับผิดชอบว่ามีโรงเรียนที่จดทะเบียนกี่โรง ที่จัดการเรียนการสอนเกิน 7 คน แต่ไม่ได้ลงทะเบียนกี่โรง โดยรวมถึงหลักเกณฑ์ต่างๆ อาทิ จำนวนนักเรียนต่อห้อง จำนวนห้องน้ำที่พอเพียง โดยแยกชาย-หญิงออกจากกัน บันไดหนีไฟ อุปกรณ์ดับเพลิง หรือการอำนวยความสะดวกต่างๆ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กำหนดไว้
ผู้ตรวจราชการ ศธ. กล่าวต่อว่า ส่วนที่ 2 ถ้าพบว่าสอนเกิน 7 คน แต่ไม่ได้ลงทะเบียน จะต้องควบคุมให้จดทะเบียนให้เรียบร้อย และตรวจสอบความสมบูรณ์ของอาคารเรียนด้วย เพราะก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดือนเม.ย. นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) ได้ส่งหนังสือซักซ้อมความเข้าใจเรื่องการติดตามการดำเนินกิจการโรงเรียนนอกระบบ ประเภทกวดวิชา พร้อมระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานโรงเรียนเอกชน ประเภทกวดวิชา (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2549 ไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้คำแนะนำโรงเรียนและเชิญผู้ประกอบการมาจดทะเบียนเพื่อประโยชน์ของตนเองและนักเรียนแล้ว สำหรับส่วนสุดท้ายที่ปลัด ศธ.กำชับที่สุดคือ ต้องตรวจสอบดูแลเรื่องคุณภาพการศึกษาที่ผู้เรียนได้รับ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของครูผู้สอน การเก็บค่าเล่าเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ สช.กำหนด ไม่ได้เอาเปรียบผู้เรียน ทั้งนี้เมื่อสำนักตรวจราชการและติดตามประเมินผล สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) ทำแผนการดำเนินงานเสร็จก็จะลงพื้นที่เอกซเรย์ทันที
www.khaosod.co.th/
