อาบีเกลและบริททานี แฝดสยามตัวติดกันชาวสหรัฐฯ ผู้เคยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเมื่อ 16 ปีก่อน ปัจจุบันมีอายุ 22 ปีแล้ว ทั้งที่หมอระบุหลังพวกเธอเกิดไม่นานว่า พวกเธออาจมีอายุไม่เกิน 2-3 วัน...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ว่า อาบีเกลและบริททานี เฮนเซน แฝดสยามชาวสหรัฐฯผู้มีร่างกายติดกันตั้งแต่อกลงมา ถูกระบุโดยแพทย์ของโรงพยาบาลในรัฐมินเนสโซตา หลังจากที่พวกเธอเกิดมาเมื่อ 22 ปีก่อนว่า พวกเธออาจมีอายุไม่เกิน 2-3 วัน แต่คู่แฝดแสดงให้เห็นแล้วว่า คำวินิจฉัยของแพทย์นั้นผิดถนัด เมื่อพวกเธอสามารถมีชีวิตรอดได้จนถึงปัจจุบันนี้ และสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเบเธล รัฐมินเนสโซตาแล้วด้วย
คู่แฝดอาบีเกลและบริททานี เกิดมาโดยมีร่างกายติดกันตั้งแต่ช่วงอกลงมา อาบีเกลเป็นผู้ควบคุมอวัยวะซีกขวา และบริททานีควบคุมซีกซ้าย พวกเธอมีหัวใจคนละดวงเป็นของตัวเอง เช่นเดียวกับกระดูกสันหลัง, หลอดอาหาร, กระเพาะ แต่มีปอด 4 ปอด ไต 3 ข้าง ถุงน้ำดี 2 ถุง และใช้งานตับร่วมกัน รวมถึงกระดูกซี่โครง ระบบไหลเวียนในร่างกาย และระบบรับรู้ความรู้สึกบางอย่าง ทั้ง 2 ยังมีบุคลิก, ความชอบด้านอาหารและการแต่งตัว ต่างกันอีกด้วย
อาบีเกลและบริททานีเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเมื่อราว 16 ปีก่อน หลังจากที่พวกเธอได้รับเชิญไปร่วมรายการ 'เดอะ โอปราห์ วินฟรีย์ โชว์' และมีบทสัมภาษณ์ลงในนิตยสาร 'ไลฟ์ แม็กกาซีน' หลังจากนั้นเป็นต้นมา พวกเธอเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบกับพ่อแม่และน้องๆ อยู่ในรัฐมินเนสโซตา หลีกเลียกไม่ปรากฏตัวตามหน้าสื่อ จนกระทั่งพวกเธอยอมตกลงร่วมการถ่ายทำสารคดี ประเภทเรียลิตีกับสถานที่โทรทัศน์ 'ทีแอลซี' เมื่ออายุได้ 16 ปี และสารคดีดังกล่าว กำลังจะออกมาอากาศอย่างเป็นทางการในเดือนนี้
หลายปีที่ผ่านมา อาบีเกลและบริททานีทำให้แพทย์ประจำตัวของพวกเธอประหลายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งแสดงความสามารถพิเศษในการเล่นเปียโนออกมา โดยเล่นได้อย่างเป็นจังหวะ และผ่านการสอบทำใบขับขี่รถยนต์ตั้งแต่อายุ 16 ปี แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของทั้งคู่ ที่ต้องบังคับร่างกายคนละข้างให้สัมพันธ์กัน
ทั้งนี้ การใช้ชีวิตของคู่แฝดค่อนข้างลำบากกว่าคนปกติ โดยเฉพาะบริททานี ที่มักจะป่วยด้วยโรคปอดบวม แต่โดยรวมแล้วร่างกายของทั้งคู่ถือว่าแข็งแรงดี แม้ต้องผ่าตัดหลายครั้งในวัยเด็ก โดยเมื่อครั้งเป็นทารก แพทย์ได้ผ่าตัดนำแขนข้างที่ 3 ของพวกเธอออกไป และเมื่ออายุได้ 12 ปี พวกเธอก็เข้ารับการผ่าตัดแก้ไขอาการกระดูกสันหลังคด และผ่าตัดขยายช่องอกเพื่อลดปัญหาด้านการหายใจ
ด้านแพตตี และไมค์ แม่และพ่อของแฝดคู่นี้ เผยว่า ไม่เคยคิดที่จะผ่าตัดแยกเด็กทั้งสองออกจากกันเลย เพราะมีแต่จะทำให้ลูกของเธอกลายเป็นคนพิการ และต้องนั่งรถเข็นอย่างไม่ต้องสงสัย และพวกเขาเผยว่า เมื่อเห็นลูกครั้งแรก พวกเขารู้สึกว่า ลูกๆ เป็นเด็กน่ารักที่สุดในโลก พวกเขายังคงแสดงความรักต่อลูกด้วยการกอดและหอมแก้มมาจนถึงทุกวันนี้ และคอยสอนให้ลูกไม่รู้สึกแปลกแยก และสอนให้พัฒนาความเป็นตัวของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
อนึ่ง ตามสถิติ ในกลุ่มทารกแฝด 40,000 คู่ จะมีอยู่ 1 คู่ ที่เกิดมาพร้อมกับมีอวัยวะติดกัน และมีโอกาสเพียงร้อยละ 1 เท่านั้น ที่แฝดประเภทนี้จะมีชีวิตรอดระหว่างปีแรกของชีวิต
ข่าว - ไทยรัฐออนไลน์