31 ส.ค. 2555

[กิจกรรม] - มธ.โชว์คลังความรู้ พร้อมผลิตบัณฑิตสู่อาเซียน เปิดบ้าน6-7ก.ย.นี้



UploadImage


มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.กำหนดจัดงาน “TU Open House 2012” 

โชว์คอนเซปต์  " โชว์คลังความรู้ พร้อมผลิตบัณฑิตสู่ประชาคมอาเซียน"

ในวันพฤหัสบดีที่ ๖ และวันศุกร์ที่ ๗ ก.ย.๕๕

เริ่มเวลา 09.00 -16.00น. ณ ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ รังสิต (อาคารยิมเนเซี่ยม 1 )

รองศาสตราจารย์ ดร.กำพล รุจิวิชชญ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ศูนย์รังสิต กล่าวว่างานนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา อาจารย์ ผู้ปกครอง ได้เห็นถึงการพัฒนาและการเติบโตทางวิชาการอย่างต่อเนื่องของมหาวิทยาลัยสู่มาตรฐานสากล มีการปรับปรุงหลักสูตรทันสมัย รวมทั้งการเปิดหลักสูตรนานาชาติ

ภายในงาน จะมีหน่วยงาน คณะต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย จัดแสดงนิทรรศการ และออกบูธจำนวนมาก มีกิจกรรมทางวิชาการมากมาย อาทิ การแนะแนวหลักสูตรภาษาไทย และหลักสูตรนานาชาติ การนำเสนอผลงานวิชาการ การแสดงผลงานนักศึกษา การเสวนาจากศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน เช่น คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล คุณช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา ผู้ดูแลการตลาดนิตยสารในเครือ A DAY เป็นต้น

ผู้สนใจเข้าร่วมงานลงทะเบียนได้ที่ 
http://www.bcis.co.th/tuopenhouse/

หรือโทรศัพท์ 02-564-4440 ต่อ 1117-8

Credit : Enn.co.th

[ข่าว] - แนะ นศ.จบใหม่ปรับตัวเพิ่มความรู้รับมืออัตราการว่างงาน


UploadImage

รศ.ดร.ณรงค์  เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงว่า ในไตรมาส 2 ปีนี้  มีอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 0.85 หรือ 334,121 คน สูงกว่าไตรมาสเดียวกันในปี 2554 ที่มีร้อยละ 0.6 ว่า มีความเป็นไปได้เนื่องจากประเทศไทยได้รับผลกระทบทั้งจากเศรษฐกิจภายในประเทศ เช่น น้ำท่วม และเศรษฐกิจยุโรป  ที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนโดยเฉพาะการส่งออก

ดังนั้น บัณฑิตจบใหม่และกำลังจะเข้าสู่ตลาดแรงงานที่อยู่ในสายบังคับบัญชา หรือ สายสังคมศาสตร์ เช่น  รัฐศาสตร์  เศรษฐศาสตร์  นิเทศศาสตร์  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มว่างงาน ต้องปรับตัวให้มีความรู้เชิงบูรณาการ เช่น การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือมีความรู้ในสาขาอื่นที่สามารถเชื่อมโยงกันได้ โดยเฉพาะด้านภาษา เพื่อปรับตัวให้ทันกับอัตราการว่างงานที่อาจจะสูงขึ้นในอนาคต.

ขอขอบคุณ - สำนักข่าวไทย

[ไลค์สาระ] - “วงกฎ” ละครเวทีผลงานนิสิตนิเทศ จุฬาฯ ที่น่าจับตา




UploadImage


          คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดแสดงละครเวทีประจำปี 2555 รอบปฐมทัศน์ที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีศิษย์เก่า ดารานักร้อง สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมชมการแสดงอย่างคับคั่ง นำโดยรุ่นพี่นิเทศ จุฬาฯ ศุ บุญเลี้ยง,เกตุ-ธัญญา รัตนมาลากุล นักแสดงตลกจากละครเรื่องรักออกอากาศ,จ๊ะจ๋า-พริมรตา เดชอุดม พร้อมด้วย พริ้ง AF5, แท็บบี้ AF6, สเตฟานี แลร์ช (คู่แค้นแสนรัก),พี-ภีรพัฒน์(รักออกอากาศ), บอส-จักรพันธุ์ (8e88 แฟนลั้ลลา)น้ำฝน-ศนันธฉัตร(ATM เออรัก เออเร่อ), ตอย Utip, แย้ นนทพร พริตตี้สาวชื่อดังทอม แฟนพันธุ์แท้สุนทรภู่ แถมยังเรียกเสียงฮือฮาด้วยแขกรับเชิญพิเศษ “จีฉ่อย” อาม่าร้านชำที่เป็นตำนานคู่จุฬาฯ อีกด้วย

UploadImage


          สำหรับปีนี้  “วงกฎ” ละครเวทีแนวพีเรียดดราม่า แปลกแหวกแนวไปจากทุกปีด้วยพล็อตเรื่องที่น่าจับตามอง ฉีกไปจากแนวละครปีก่อนๆ ด้วยประเด็นที่”ใหญ่” และ “หนัก” กว่าทุกปี แต่ยังสอดแทรกวีธีการเล่าแบบคอมเมดี้ตามสไตล์นิเทศ จุฬาฯ และรักษามาตรฐานด้านงานโปรดักชั่นแบบมืออาชีพเช่นเคย โดยเฉพาะฉากละครตระการตา ด้านบทเพลงมิวสิคัลและทีมแดนซ์ที่เป็นเอกลัษณ์ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง รักษาตำแหน่งจุดขายสำคัญของละครนิเทศจุฬาฯ ได้อย่างไม่มีข้อสงสัย

UploadImage


          เกตุ-ธัญญา อดีตนักแสดงละครนิเทศจุฬาฯ 4 ปีซ้อน ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกหลังชมละครว่า “ชอบปีนี้เพราะว่าได้ทั้งดราม่าอารมณ์เข้มข้นแล้วก็บันเทิงด้วย ไม่ได้ตั้งใจตลกแต่มีแบบน่ารักๆแทรกมา ชอบที่ว่ามันลงตัว ส่วนมิวสิคัลชอบทุกปีอยู่แล้ว ยังสวยงามเหมือนเดิม ประทับใจ ไม่ตกเลยสักนิดค่ะ”

          ด้านสองสาว พริ้งและแท็บบี้จากเวที AF บอกว่า “เห็นน้องๆ ทุกคนทำละครเวทีดีๆแบบนี้แล้วมีความสุขค่ะ เด็กๆเก่งกันมาก เหมือนได้เห็นพลังคนรุ่นใหม่ ใครจะไปคิดว่างานนักศึกษาแต่เขาเต้นเริ่ด บทฉลาดมาก การแสดงถึงทั้ง
ดราม่า ถึงทั้งคอมเมดี้ ยอมรับเลยว่าช่วงเปลี่ยนฉาก เรารู้สึกว่าอยากให้ออกมาเร็วๆ อยากดูแล้ว”

          ทอม-จักรกฤต แชมป์แฟนพันธุ์แท้สุนทรภู่กล่าวว่า “รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่เหมือนกับละครนิเทศเรื่องอื่นๆ นอกจากสนุกแล้วยังนำเสนออีกภาพหนึ่งของเด็กนิเทศที่ไม่ใช่แค่ภาพสนุกสนาน รื่นเริง เฮฮาอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนสังคมด้วย ถ้าไม่ได้มาดูนี่ถือว่าพลาดครับ”


UploadImage


          สำหรับรอบการแสดงจริงของ “วงกฎ” จะเปิดแสดง ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน และ 7 - 9 กันยายน 2555 เวลา 19.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เพิ่มรอบ 13.00 น. 

          ผู้ที่สนใจยังสามารถหาซื้อบัตรเพิ่มเติมได้ที่ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ทุกวันจันทร์ – พฤหัสบดี เวลา 11.00 -18.00 น. นอกจากนี้ยังสามารถหาซื้อบัตรได้หน้างานบริเวณหน้าหอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันศุกร์ – อาทิตย์ หรือสั่งจองทางโทรศัพท์ที่ 082 - 961 - 9380 (ขอสงวนสิทธิ์การเลือกที่นั่ง กรณีสั่งจองทางโทรศัพท์) บัตรราคา 260, 240, 220 และ 180 บาท 



ติดตามรายละเอียดได้ทาง www.wongkot.com และ www.facebook.com/lakornnitade

[รับตรง] - 200ทุน UTCC - Gold ม.หอการค้าไทย ให้เรียนต่อป.ตรี


UploadImage

มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย มีนโยบายส่งเสริมการศึกษาของเยาวชนให้เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถทางด้านสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และนิติศาสตร์

โดย
มอบทุนส่งเสริมการศึกษาครึ่งหนึ่ง UTCC - Gold ในหลักสูตรปกติ 4 ปีการศึกษา และหลักสูตรต่อเนื่อง 2 ปีการศึกษา
จำนวนทุนการศึกษา
มหาวิทยาลัย หอการค้าไทยมอบทุนส่งเสริมการศึกษาครึ่งหนึ่ง UTCC-Gold แก่นักเรียนที่มีผลการเรียนดี ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ และสายอาชีพที่หน่วยงานของรัฐรับรองวิทยฐานะ จำนวนทั้งสิ้น 200 ทุน ใน 5 คณะวิชา ดังนี้
คุณสมบัติของผู้สมัครขอรับทุนการศึกษา
  1. สําเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ หรือสายอาชีพที่หน่วยงานของรัฐรับรองวิทยฐานะ
  2. มีผลการเรียนตลอดหลักสูตรในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แต้มเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.75  
  3. เป็นผู้มีความประพฤติดี
  4. หากเป็นผู้ที่เคยมีส่วนร่วมในการทํากิจกรรมของสถาบันและ/หรือสังคมจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
  5. ไม่เป็นโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
  6. ต้องไม่ลงทะเบียนเรียนกับสถาบันการศึกษาอื่น ๆ
รายละเอียดของทุนการศึกษาที่ได้รับ
  1. ค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมต่างๆ ครึ่งหนึ่ง ตลอดหลักสูตรแบบทวิภาค (ภาคต้น ภาคปลาย) ระยะเวลาต่อเนื่องตลอด หลักสูตร 4 ปี และหลักสูตรต่อเนื่อง 2 ปี
  2. ชำระเงิน ครึ่งหนึ่ง ของค่าอุปกรณ์การเรียน ระบบ Hybrid Learning จำนวน 1 ชุด
  3. ค่าใช้จ่ายที่ผู้รับทุนการศึกษาต้องรับผิดชอบเอง
    - ค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุกลุ่ม 200 บาท
    - ค่าธรรมเนียมการใช้ระบบสารสนเทศ 1,000 บาท
    - ค่าอุปกรณ์เครื่องแต่งกาย 500 บาท
    - ค่าประกันของเสียหาย 500 บาท (เฉพาะคณะวิศวกรรมศาสตร์ 1,000 บาท)

     ค่ากิจกรรมนักศึกษา ภาคเรียนละ 300 บาท
    - ค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภค ภาคเรียนละ 1,000 บาท

    รวมค่าใช้จ่ายที่ผู้รับทุนการศึกษาต้องรับผิดชอบเอง 3,500 บาท (เฉพาะคณะวิศวกรรมศาสตร์ 4,000 บาท)
กำหนดการรับสมัคร  
  1. คณะส่งรายชื่อนักศึกษาผู้ได้รับทุนการศึกษา บัดนี้ - 29 มี.ค. 2556
  2. รายงานตัว และยืนยันการรับทุนการศึกษา พร้อมชำระเงิน 1 - 6 เม.ย. 2556
  3. ประกาศรายชื่อผู้ได้รับทุนการศึกษาปีการศึกษา 2556 10 เมษายน 2556
ข้อปฏิบัติหลังได้รับทุนการศึกษา
  1. ต้องรักษาแต้มเฉลี่ยสะสม (GPA) ไม่ต่ำกว่า 2.75 ทุกภาคการศึกษา หากผู้ได้รับทุนมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสม (GPA) ต่ำกว่า 2.75 จะถูกระงับการได้รับทุนในภาคเรียนต่อไปจนกว่าจะรักษาระดับแต้มเฉลี่ยสะสม (GPA) ไม่ต่ำกว่า 2.75 จึงจะได้รับทุนการศึกษาอีกครั้งหนึ่ง
  2. ต้องลงทะเบียนและสอบได้ไม่ต่ำกว่า 15 หน่วยกิตทุกภาค การศึกษาปกติ ยกเว้น แผนสหกิจศึกษาหรือภาคการศึกษา สุดท้ายที่สำเร็จการศึกษาหรือ ได้รับอนุมัติจากคณบดี
  3. ผู้ได้รับทุนการศึกษาต้องปฏิบัติงานทางวิชาการและ/หรือ งานอื่นๆ ที่คณะวิชาและ/หรือมหาวิทยาลัยฯ มอบหมาย
ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องชำระเงินค่าประกันการรับทุนการศึกษา จำนวน  10,000 บาท(เงินประกันจะนำมาหักลดกับค่าใช้จ่ายที่ผู้รับทุนการศึกษาต้องรับผิดชอบเองในภายหลัง)ทันทีที่ทราบผลการคัดเลือกกับทีมอาจารย์แนะแนวการศึกษาของทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
• เคาท์เตอร์ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา เลขที่บัญชี  034-3-8462-4 

โดยดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
การชำระเงินได้จากเว็บได้ที่ 

http://department.utcc.ac.th/finance/home.html

[รับตรง] - โครงการส่งเสริมความสามารถพิเศษ คอมฯ คณะวิทยาศาสตร์ มข


UploadImage
โครงการส่งเสริมบัณฑิตที่มีความสามารถพิเศษ
ทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (รอบที่ 1)
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนเเก่น
ประจำปีการศึกษา 2556

คุณสมบัติ

- กำลังศึกษาอยู่ในชั้น ม.6 สายวิทย์-คณิต
- GPAX ไม่ต่ำกว่า 3.00
- GPA คณิต ไม่ต่ำกว่า 2.75
- ได้รับรางวัลในการเเข่งขัน (ดูในรายระเอียดเพิ่มเติมที่แนบมา)

กำหนดการ

เปิดรัยสมัคร 1-31 สิงหาคม 2555
ประกาสรายชื่อ 14 กันยายน 2555
สอบสัมภาษณ์ 3 ธันวาคม 2555

 

[รับตรง] - โครงการพิเศษ วิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มข.


UploadImage

หลักสูตรที่เปิดรับ

หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิทยาการคอมพิวเจอร์
หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาภูมิสารสนเทศศาสตร์

คุณสมบัติ

- สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษา ระดับชั้น ม.6 หือเทียบเท่า

กำหนดการ

UploadImage

ค่าสมัคร 1 สาขา 500 บาท , 2 สาขา 700 บาท

 

[ข่าว] - รื้อเกณฑ์รับ ม.1-4 ปี '56 (อีกแล้ว)!!

UploadImage         


          เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับความสนใจจากบรรดานักเรียน และผู้ปกครอง หลังจากเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) "นายชินภัทร ภูมิรัตน" เปิด เผยผลการหารือร่วมกับผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารสถานศึกษาที่มีอัตราการแข่งขันสูงทั่วประเทศ เพื่อยกร่างนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียนของสำนักงานคณะ กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีการศึกษา 2556

          ข้อสรุปเบื้องต้นของการสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ในปีการศึกษาหน้า ใช้คะแนนสอบ 80% และคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) 20% รวมถึง ที่ประชุมยังเห็นตรงกันอีกว่าจะเพิ่มการสอบวิชาภาษาอังกฤษ 10% จากสัดส่วนข้อสอบ 80% ในการสอบชั้น ม.1 และ ม.4 ที่จากเดิมสอบเฉพาะภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และสังคมศึกษา โดยให้เหตุผลเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558

          นายชินภัทร บอกว่า ในปี 2556 จะรับนักเรียนชั้น ม.3 เข้าเรียนต่อชั้น ม.4 ให้มากขึ้น โดยให้โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงไปจัดทำแผนการรับนักเรียน และให้คัดเลือกนักเรียนชั้น ม.3 เดิมที่มีศักยภาพที่เหมาะสมเข้าเรียนต่อชั้น ม.4 แต่ต้องอยู่ภายใต้ 3 เงื่อนไข ได้แก่
          1. นักเรียนชั้น ม.3 เดิมจะต้องมีคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร (GPAX) ตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไป
          2. หากนักเรียนชั้น ม.3 เดิม มีคะแนน GPAX ต่ำกว่า 2.00 แต่สูงกว่า 1.50 ขึ้นไปจะได้รับโอกาสทดสอบประมวลความรู้ระดับชั้นมัธยมต้น
          และ 3. นักเรียนที่มีความสามารถเฉพาะทาง และสร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนต้องได้รับการรับรองจากครูที่รับผิดชอบ และต้องมีคะแนน GPAX สูงกว่า 1.50 ขึ้นไป


          ขณะเดียวกัน เลขาธิการ กพฐ. ยังสั่งการให้โรงเรียนแต่ละแห่งกลับไปพิจารณาและจัดทำแผนการรับนักเรียน โดยเปิดช่องการรับนักเรียนชั้น ม.3 จากโรงเรียนอื่นเข้าเรียนต่อชั้น ม.4 ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 20% ของแผนการรับนักเรียน

          ส่วนการรับนักเรียนชั้น ม.3 ในโรงเรียนเดิมขึ้นชั้น ม.4 ให้โรงเรียนทำแผนว่าจะรับได้เท่าไหร่ ซึ่งสัดส่วนนี้คิดเป็น 100% ซึ่งสัดส่วนการรับนักเรียนชั้น ม.4 จะรวมแล้วอยู่ที่ 120%

          อย่างไรก็ตาม สพฐ. เน้นย้ำว่าการรับนักเรียนชั้น ม.3 เดิมขึ้นชั้น ม.4 จะไม่ใช่การเลื่อนชั้นอัตโนมัติ และไม่ใช่ทุกคนจะได้เข้าเรียนชั้น ม.4 แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนที่ สพฐ. กำหนด แต่โรงเรียนสามารถขอขยายการเพิ่มห้องเรียนได้ แต่ต้องไม่เกิน 50 คนต่อห้อง และการขอขยายห้องเรียนเพิ่มต้องมีศักยภาพในการบริหารจัดการ อาทิ ครูผู้สอนด้วย

          เชื่อว่าหลายๆ คนคงจำเหตุการณ์ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กรณีกลุ่มนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ชั้น ม.3 และอีกหลายโรงเรียนออกมาประท้วง โดยเฉพาะนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชาถึงขั้นประกาศอดข้าวอดน้ำ หลังจากไม่สามารถเข้าเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเดิม พร้อมทั้งแฉว่ามีการเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะจนพวกเขาเข้าเรียนไม่ได้ และเรียกร้องให้ปรับเกณฑ์และวิธีการสอบเข้าชั้น ม.4 ใหม่

          จากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักให้ สพฐ. ต้องทบทวนหลักเกณฑ์การรับนักเรียนใหม่ แต่เมื่อ สพฐ. ได้เปิดเผยร่างนโยบายการรับนักเรียนฉบับใหม่ออกมา ก็มีทั้งเสียงสนับสนุน และเสียงคัดค้านโดยนักวิชาการที่ออกมาคัดค้านอย่างเช่น "นายสมพงษ์ จิตระดับ" อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความกังวล และอยากให้ สพฐ. ทบทวนหลักเกณฑ์การรับนักเรียนในบางประเด็นใหม่ และคำนึงถึงผล กระทบที่ตามมา

          "ไม่เห็นด้วยกับร่างนโยบายดังกล่าว เพราะดูแล้วเป็นการเปิดช่องว่างให้แต่ละโรงเรียนรับนักเรียนได้ถึง 120% มองว่าในส่วนโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง และโรงเรียนชื่อดังทั้งหลายจะยิ่งมีปัญหา เพราะจะดึงนักเรียนนอกพื้นที่จากโรงเรียนขนาดกลาง และขนาดเล็กเข้ามาเรียน เพราะค่านิยมส่วนใหญ่ต้องการเรียนโรงเรียนดัง แน่นอนว่าในอนาคตทำให้จำนวนโรงเรียนขนาดเล็กเพิ่มจำนวนมากขึ้นอีก" นายสมพงษ์บอก

          นอกจากนี้ นายสมพงษ์มองอีกว่าการเปิดช่องให้ ขยายห้องเรียนห้องละ 50 คน และสามารถเปิดตามความต้องการของโรงเรียนนั้น จำนวนนักเรียนจะมากเกินความรับผิดชอบครูที่จะสอน เพราะปัจจุบันหลายโรงเรียนประสบปัญหาขาดแคลนครู ซึ่งจะทำให้การเรียนการสอนยิ่งไม่มีคุณภาพเข้าไปอีก ที่สำคัญ นโยบายดังกล่าวทำให้เด็กเข้ามาเรียนสายสามัญมากเกินไป ยิ่งส่งผลกระทบต่อจำนวนนักเรียนสายอาชีวศึกษา ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาปริมาณการรับสมัครสายอาชีวะน้อยกว่าเป้าตลอด ซึ่งในความเป็นจริงการเรียนจบ ม.6 และเข้าศึกษาต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัย ปัจจุบันจบแล้วตกงานเป็นจำนวนมาก

          ส่วนมุมมองฝั่งสนับสนุนอย่าง "นายสรายุทธ ฟูทรัพย์นิรันดร์" ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า บอกว่า เห็นด้วยที่เปิดกว้างรับนักเรียนชั้น ม.3 จากโรงเรียนเดิมขึ้นชั้น ม.4 ให้มากขึ้น ส่วนนโยบายให้นักเรียนชั้น ม.1 และชั้น ม.4 สอบวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มนั้นเป็นเรื่องดี เชื่อว่าที่ผ่านมาโรงเรียนสอนตามหลักสูตรอยู่แล้ว

          ขณะที่ความเห็นของหนึ่งในคณะกรรมการยกร่างแนวปฏิบัติดังกล่าว "นางจำนงค์ แจ่มจันทรวงษ์" ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา มองว่า เห็นด้วยแน่นอน เพราะในส่วนของโรงเรียนสตรีวิทยารับนักเรียนชั้น ม.3 ขึ้นชั้น ม.4 เกือบ 100% อยู่แล้ว โดยกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำว่านักเรียนต้องมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.00 ส่วนการสอบคัดเลือกนักเรียนชั้น ม.1 และชั้น ม.4 โดยให้สอบวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มนั้นดี

          "แต่รู้สึกเป็นห่วงชั้น ม.1 เพราะโรงเรียนประถมศึกษาแต่ละโรงมีความเข้มเรื่องการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ต่างกัน ดังนั้น เมื่อให้คะแนนสอบภาษาอังกฤษด้วย อาจเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ"

          ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย "นายเชิดศักดิ์ ศุภโสภณ" ก็เห็นด้วยกับแนวทางการรับนักเรียนฉบับใหม่ และเชื่อว่าไม่มีปัญหา เพราะนักเรียนของโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กหัวกะทิ เกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.00 ขึ้นไป อีกทั้ง จำนวนนักเรียนชั้นมัธยมต้นน้อยกว่ามัธยมปลาย จึงไม่น่าจะมีปัญหา

          "ขณะนี้เรากำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หากเด็กไม่ได้ภาษาอังกฤษ อาจจะมีปัญหา การที่ สพฐ. ประกาศออกไปว่าจะสอบภาษาอังกฤษในการสอบชั้น ม.1 และชั้น ม.4 ทำให้โรงเรียนตื่นตัวตั้งแต่ประถมศึกษา" นายเชิดศักดิ์กล่าว

          ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกปีที่ผ่านมาการรับนักเรียนไม่ว่าเข้าชั้น ม.1 หรือชั้น ม.4 ต้องมีเรื่องวุ่นวายตลอด ทั้งการร้องเรียนเรื่องเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ ห้องเรียนแน่นเกินไป ครูสอนไม่เพียงพอ ดังนั้น หวังว่าปรับปรุงแนวทางการรับนักเรียนครั้งนี้ ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ สพฐ. จะนำข้อเสนอต่างๆ ไปขบคิด และใช้เป็นแนวทางเพื่อให้นโยบายที่เกิดประโยชน์ และเป็นธรรมกับทุกโรงเรียนทั่วประเทศ ไม่ใช่โรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่งเท่านั้น ที่สำคัญ หวังว่าการรับนักเรียนชั้น ม.1 และชั้น ม.4 ในปี 2556 จะไร้ซึ่งความวุ่นวาย รวมถึง นโยบายรับนักเรียนในปีต่อๆ ไป จะไม่เปลี่ยนอีก เพราะต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายทุกปีไม่ใช่สิ่งที่ดี เพราะไม่เช่นนั้น เป้าหมายที่ สพฐ. วาดฝันไว้ว่าภายใน 3 ปี จะเร่งพัฒนาการศึกษาไทยทั้งระบบให้มีคุณภาพ และทัดเทียมนานาประเทศ เพื่อรองรับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558
ก็ยังคงเป็นแค่ความฝันต่อไป!!


ที่มา: มติชนสุดสัปดาห์

[กิจกรรม] - ม.ศรีปทุม จัดโครงการสัมมนาผู้นำ นศ. เข้าสู่ประชาคมอาเซียน


UploadImage   


          ดร.จรรยา พุคยาภรณ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม พร้อมด้วย ดร. จิรวัฒน์ วีรังกร ประธานคณะอนุกรรมการการพัฒนานิสิต นักศึกษานอกชั้นเรียนเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาเขตภาคกลาง  ร่วมให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาผู้นำกิจกรรมนักศึกษา สถาบันอุดมศึกษาเขตภาคกลาง และสมาคมสถาบันการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย จำนวน 300 คน ในหัวข้อ "ผู้นำกิจกรรมนักศึกษาควรมีบทบาทอย่างไร เพื่อความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน” เพื่อ ระดมความคิดเห็นและสร้างความสัมพันธ์อันดีของผู้นำนักศึกษาในการเตรียมความ พร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ณ ห้องบัวหลวงแกรนด์รูม มหาวิทยาลัยศรีปทุม


ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
โทร 02-579-1111 ต่อ 1125-6,1185,1107
โทรสาร 02-579-4666
e-mail : pr_spu@spu.ac.th

Credit : ENN.co.th

[กิจกรรม] - CMMU ม.มหิดล จัดสัมมนาการบริหารการลงทุนและความเสี่ยงโดย VaR


    
          วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (College of Management, Mahidol University - CMMU)
โดยสาขาการเงินหลักสูตรภาษาไทย (MMF) ขอ เรียนเชิญนักการเงินขององค์กร นักวิเคราะห์ตลาดเงิน ตลาดทุน และผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วม สัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การบริหารการลงทุนและความเสี่ยงโดย VaR” ในวันพุธที่ 19 กันยายน 2555 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 301 ชั้น 3 วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนวิภาวดีรังสิต โดยผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมอบรมได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (รับจำนวนจำกัด เพียง 50 ท่านเท่านั้น)


          เนื้อหาของการงานสัมมนา จะแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยส่วนแรกจะเป็นการบรรยายเพื่อแบ่งปันประสบการณ์และ เรียนรู้ถึงวิธีการประยุกต์ ใช้เครื่องมือ VaR (Value at Risk) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะบอกได้อย่างมีหลักการทางวิชาการว่า พอร์ตการลงทุนมีโอกาสขาดทุนมากน้อยเพียงใดและขาดทุนสูงสุดไม่เกินเท่าใด มาใช้ในการบริหารความเสี่ยงการลงทุน โดยเฉพาะสำหรับพอร์ตหุ้น ตลอดจนยังช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนของตนได้ อย่างมีประสิทธิผล และในส่วนที่สองจะเป็นภาคการปฏิบัติ จำลองเหตุการณ์เพื่อให้ผู้อบรมได้ทดลองใช้เครื่องมือนี้ด้วยตัวเองใน คอมพิวเตอร์


          ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมอบรมได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทางระบบลงทะเบียนออนไลน์ที่เว็ปไซต์ของ CMMMU ที่ www.cmmu.mahidol.ac.th หรือ www.cmmu.mahidol.ac.th/cm/link/register/app3 (รับจำนวนจำกัด เพียง 50 ท่านเท่านั้น) หากท่านทำการลงทะเบียนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะโทรหรืออีเมลล์ยืนยันการเข้าร่วมสัมมนาก่อนวันงาน



          ติดต่อ แผนกประชาสัมพันธ์และการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (College of Management, Mahidol University - CMMU)  69 ถนนวิภาวดี พญาไท กทม 10400 โทร 02-206-2000 www.cmmu.mahidol.ac.th

Credit : ENN.co.th

30 ส.ค. 2555

[กิจกรรม ทุน] - 84 ทุนเอสโซ่ มอบให้นักศึกษาระดับปริญญาตรี


UploadImage

สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาและบริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีความประสงค์จะมอบทุนการศึกษาเอสโซ่ สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี แก่นักศึกษาระดับปริญญาตรีที่ศึกษาในสถาบันการศึกษาของรัฐ หรือในกำกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ที่มีความประพฤติดี ผลการเรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้มีโอกาสเรียนจนสำเร็จการศึกษา โดยปีการศึกษา 2555 บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้กำหนดให้ทุนการศึกษาจำนวน 84 ทุน ทุนละ 10,000 บาท

คุณสมบัติของผู้สมัคร

1.    เป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาในชั้นปีที่ 2 หรือ 3 ในปีการศึกษา 2555

2.    ศึกษาในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และคอมพิวเตอร์

3.    มีคะแนนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ 2.50 ขึ้นไป

4.    เป็นผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

5.    มีความประพฤติเรียบร้อย

หลักฐานประกอบการสมัคร

1.    แบบฟอร์มใบสมัครขอรับทุนการศึกษาเอสโซ่ สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี

2.    รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว หน้าตรง จำนวน 1 รูปติดใบสมัคร

3.    ใบแสดงผลการศึกษาที่สถานศึกษารับรอง (transcript)

4.    หนังสือรับรองจากสถานศึกษา ลงนามโดยอาจารย์ที่ปรึกษาและรองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา (ตามแบบฟอร์มแนบท้ายในสมัคร)

5.    หนังสือรับรองจากผู้ปกครอง

การสมัครขอรับทุน

ติดต่อสมัครได้ที่สำนักงานทุนการศึกษา มหาวิทยาลัยต้นสังกัด

Credit : ENN.co.th

[กิจกรรม] - เปิดมหกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู ครั้งที่ 5


UploadImage


          EDUCA 2012 : มหกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู ครั้งที่ 5 เปิดตัวแล้วพร้อมสาระครบครันภายใต้แนวคิดการจัดงาน "Teachers as Learners ครู...ต้นแบบการเรียนรู้" ภายในงานเตรียมพบกับนักการศึกษาระดับโลก, การเสวนาครูใหญ่ และการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาวิชาชีพครูที่ใหญ่ที่สุด กว่า 100 หัวข้อ รวมถึงนิทรรศการแสดงสินค้าอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอน เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ทันสมัย จากบริษัทชั้นนำมากมาย โดยปีนี้คาดว่าจะมียอดครูผู้เข้าร่วมงานสูงถึง 100,000 คน โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2555 ณ อิมแพ็คฟอรั่ม (ฮอลล์ 9) เมืองทองธานี


          นายศีลชัย เกียรติภาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหารการจัดงานแถลงถึงการเปิดตัวการจัดงาน EDUCA 2012 หรือมหกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู ว่า "EDUCA ถือเป็นเวทีแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ และเผยแพร่องค์ความรู้ใหม่ๆ ในด้านการพัฒนาการศึกษาจากทั่วโลกให้แก่ครูไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อมุ่งสนับสนุนการพัฒนาวิชาชีพครูเป็นหลัก และการจัดงานในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศึกษาไทย โดยมี บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารการจัดงาน"


          ดร.เบญจลักษณ์ น้ำฟ้า รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะเจ้าภาพและ ผู้สนับสนุนการจัดงาน กล่าวถึงงาน EDUCA 2012 ว่า "EDUCA เป็นแหล่งเรียนรู้แหล่งหนึ่งที่มีประโยชน์ของครูไทย โดยทางกระทรวงมีนโยบายสนับสนุนให้ครูทุกคนต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพราะทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงทุกวัน หากครูหยุดเรียนรู้ หยุดที่จะขวนขวายหาความรู้ใหม่ๆ ความรู้ที่ถ่ายทอดไปสู่นักเรียนก็ย่อมเป็นความรู้ที่ล้าหลังไม่ทันสมัย ดังนั้นการที่เห็นครูเป็นจำนวนมากมาร่วมงาน EDUCA ในปีที่ผ่านๆ มา เป็นเสมือนสัญญาณที่สะท้อนให้เห็นว่า ครูไทยรักการเรียนรู้ รักการพัฒนาตนเอง และที่สำคัญกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายของ EDUCA สะท้อนถึงหลักการเรียนรู้สมัยใหม่ที่ครูควรจะได้ฝึกปฏิบัติด้วยตนเองเพื่อนำสู่การประยุกต์ใช้ในการออกแบบการเรียนรู้ให้กับนักเรียน ซึ่งก็ตรงกับแนวคิดของงาน Teachers as Learners ครู...ต้นแบบของการเรียนรู้ โดยเชื่อว่า ครูที่มาร่วมงานทุกคนจะสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์การเป็นผู้เรียนด้วยตัวเองในบรรยากาศที่เป็น Active Learning และสามารถนำไปประยุกต์ พัฒนา และต่อยอดใช้ในการเรียนการสอนต่อไป"

          "EDUCA 2012 : มหกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู ครั้งที่ 5" จะจัดขึ้นที่ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม (ฮอลล์ 9) เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2555 





ครูผู้สนใจเข้าร่วมการอบรมสามารถดูรายละเอียดการฝึกอบรมและสำรองได้ที่

ตั้งแต่วันนี้-30 กันยายน 2555


ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง Credit : ENN.co.th

[ไลค์สาระ] - ฮ่องกงทุบสถิติ ห้องชุดราคาเฉียด 2,000 ล้านบาท



          เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม หนังสือพิมพ์ฮ่องกง อีโคโนมิก เจอร์นัล รายงานว่า สถาปนิกชั้นแนวหน้าของโลก แฟรงก์ เกห์รี ได้ออกแบบสร้างคอนโดมิเนียมสุดหรู "โอปุส" ซึ่งสร้างสถิติเป็นแชมป์ห้องชุดสุดแพงในทวีปเอเชีย คือ 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,891 ล้านบาท และเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากโครงการวัน ไฮด์ ปาร์ค ในกรุงลอนดอน  

          สำหรับอาคารโอปุสนี้ เพิ่งก่อสร้างเสร็จเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีรูปทรงทันสมัย และมีจุดเด่นที่ส่วนโค้งเว้าของหน้าต่างกระจกซึ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเห็นทิวทัศน์นอกอาคารได้รอบ ซึ่ง สวายร์ พรอพเพอร์ตี้ เจ้าของโครงการนี้ ก็มั่นใจว่า ตึกแห่งนี้จะสร้างสถิติใหม่ได้ และเขาก็สามารถทำได้สำเร็จจริง ๆ


          ด้าน หว่อง เหลียง หัวหน้าฝ่ายวิจัยอสังหาริมทรัพย์ของ เซนทาลีน พรอพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ไม่รู้สึกแปลกใจกับราคาห้องชุดในอาคารนี้ ที่ออกแบบโดยสถาปนิกผู้มีชื่อเสียง เพราะลูกค้าไม่ได้ซื้ออพาร์ทเม้นท์ธรรมดา แต่พวกเขาซื้องานศิลปะสถาปัตยกรรมระดับมาสเตอร์พีซ

          อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์ต่างเกรงว่า อาจเกิดความเสี่ยงของภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังราคาซื้อขายบ้านหรูในฮ่องกง ได้พุ่งขึ้นสูงกว่าร้อยละ 15 และราคาเช่าห้องชุดที่ยังไม่ตกแต่ง ขนาด 3 ห้องนอน ก็มีราคาเกินกว่า 11,800 ดอลลาร์ แต่ทั้งนี้ นายหว่อง เหลียง กล่าวด้วยความเชื่อมั่นว่า ราคาสถิติใหม่นี้คงไม่ส่งผลต่อภาพรวมของราคาอสังหาริมทรัพย์นัก เพราะยังคงยากที่จะหาอาคารลักษณะพิเศษอย่างนี้ในฮ่องกง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  luxpresso.com

[ข่าว] - ชวนชมปรากฎการณ์'บลูมูน' 31ส.ค. เต็มดวง 20.57 น.

Pic_287257

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เผย 31 สิงหาคมนี้เกิดปรากฏการณ์บลูมูนหรือดวงจันทร์เต็มดวงครั้งที่สองของเดือน ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ดวงจันทร์เต็มดวงอย่างสมบูรณ์เวลาประมาณ 20.57 น. และตกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเช้าของวันที่ 1 ก.ย. 2555 เวลาประมาณ 05.37

ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตรืและเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 สิงหาคม 2555 ที่จะถึงนี้ จะเกิดปรากฏการณ์บลูมูล (Blue Moon) หรือ ดวงจันทร์จะเต็มดวงรอบที่สองในเดือนเดียวกัน ซึ่งโดยปกติแล้วปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวง (Full Moon) จะเกิดขึ้นเพียงเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น หากเดือนไหนที่มีดวงจันทร์เต็มดวง 2 ครั้ง จะเรียกดวงจันทร์เต็มดวงในครั้งที่สองว่า บลูมูนในภาษาอังกฤษมีสำนวนว่า Once in a blue moon หมายถึงนาน ๆ จะเห็นสักครั้ง หรือเปรียบได้กับคำว่า Rarely ในภาษาอังกฤษ 

ดร. ศรัณย์ กล่าวต่อว่า ปรากฏการณ์บลูมูนเกิดขึ้นเนื่องจากใน 1 ปี มี 12 เดือน และบางเดือนมี 30 วัน บางเดือนมี 31 วัน แต่ว่ารอบของดวงจันทร์มีเพียง 29.53059 วันต่อเดือน และใน 1 ศตวรรษจะมีทั้งหมด 1200 เดือน โดยจะเกิดดวงจันทร์เต็มดวงได้ถึง 1236.83 ครั้ง แต่จะเป็นบลูมูนแค่ 36.83 ครั้ง เฉลี่ยแล้วประมาณ 2.72 ปีต่อครั้ง หรือประมาณ 3% ของฟูลมูน จะเป็นบลูมูน แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือจะมีการเกิดบลูมูนปีละ 2 ครั้งในทุก ๆ 19 ปี ซึ่งปีล่าสุดที่เกิดบลูมูน 2 ครั้งซ้อนในหนึ่งปี (Double Blue Moons) ก็คือปี พ.ศ. 2542 และถัดไปคือปี พ.ศ. 2561 

สำหรับในวันที่ 31 ส.ค. 2555 ผู้สังเกตจะเห็นดวงจันทร์เต็มดวง รอบที่สองในเดือนเดียวกัน ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เวลาประมาณ 18.18 น. โดยดวงจันทร์เต็มดวงอย่างสมบูรณ์เวลาประมาณ 20.57 น. และตกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเช้าของวันที่ 1 ก.ย. 2555 เวลาประมาณ 05.37 น. ตามเวลาประเทศไทย ทั้งนี้ดวงจันทร์จะสว่างเต็มดวงเหมือนเช่นเคยโดยไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินแต่อย่างใด และเรายังสามารถสังเกตเห็นปรากฏการณ์ Blue Moon ครั้งต่อไปได้ในวันที่ 2 ก.ค. 2558.

ขอขอบคุณข่าวสารดัๆจากทาง หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

[ข่าว] - จี้ใช้เงินกองทุนสวัสดิการสังคมคุ้มค่า

Pic_287287


จากการประชุมเชิงปฏิบัติการติดตามประเมินผลและถอดบทเรียนโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม ประจำปี 2555 โดยนายศุภฤกษ์ หงษ์ภักดี รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2555 รัฐบาลได้จัดสรรเงินอุดหนุนให้กับกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมเพิ่ม 90 ล้านบาท รวมยอดเงินกองทุนที่คงเหลือเป็น 112 ล้านบาท โดยปี 2555 มีโครงการที่ได้รับการอนุมัติเงินสนับสนุนจากกองทุนไปแล้วกว่า 700 โครงการ และยังอยู่ระหว่างเสนอขอพิจารณาอีกจนกว่าจะถึงสิ้นเดือน ก.ย. อย่างไรก็ตามคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ จะทำงานเชิงรุก โดยเฉพาะการรวบรวมข้อมูลเพื่อให้รัฐบาลได้เห็นความชัดเจนว่ากองทุนสามารถเข้าถึงและช่วยเหลือสวัสดิการสังคมให้กับประชาชนอย่างแท้จริงและทั่วถึง

ดร.อินทร์ริตา นนทะวัชรศิริชาติ ผช.รมว.พม. กล่าวว่า  สิ่งที่อยากฝากคือ จะต้องมั่นใจว่าการใช้จ่ายเงินกองทุนคุ้มค่าและตอบสนองต่อวัตถุ ประสงค์ของกองทุน การจัดโครงการต่างๆ ต้องเป็นประโยชน์ต่อสังคม เน้นการทำงานแบบบูรณาการและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและนอกจากกองทุนของรัฐแล้ว คนในชุมชนและสังคมสามารถจัดระบบและพึ่งพากันเองได้ รวมถึงการที่ภาคธุรกิจเข้ามาจัดกิจกรรมรับผิดชอบต่อสังคม โดยไม่ต้องรอภาครัฐฝ่ายเดียว.

ขอขอบคุณข่าวสารดีๆจากทางหนังสือพิม ไทยรัฐ

29 ส.ค. 2555

[รับตรง] - ภาควิชาดนตรี คณะมนุษยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ 56



UploadImage

โครงการ การรับสมัครและการสอบคัดเลือก
ผู้มีความสามารถพิเศษทางดนตรีเข้าศึกษา
ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยวิธีพิเศษ ประจำปีการศึกษา 2556

คุณสมบัติ
- กำลังศึกษาหรือสำเร็จการศึกษา ชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า
- มีความสามารถบรรเลงเครื่องดนตรีหรือขับร้องได้ดี และมีความรู้พื้นฐานด้านทฤษฏีดนตรี

กำหนดการ
รับสมัคร 1 กันยายน ถึง 30 กันยายน 2555
ประกาศผู้มีสิทธิ์สอบคัดเลือก 8 ตุลาคม 2555
สอบสัมภาษณ์ 19 พฤษจิกายน 2555
ประกาศผู้สิทธิ์เข้าศึกษา 18 ธันวาคม 2555
รายงานตัว 21 ธันวาคม 2555

*ใช้คะเเนน GAT 20%*

ค่าสมัคร 600 บาท

[รับตรง] - มาอีกแล้ว!!! คณะเทคโนโลยีการเกษตร ลาดกระบัง 56



UploadImage

คณะเทคโนโลยีการเกษตรและวิทยาเขตชุมพร
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ประจำปีการศึกษา 2556 

 
คุณสมบัติ
- กำลังศึกษาหรือสำเร็จการศึกษา ชั้น ม.6
- GPAX ไม่ต่ำกว่า 2.50
- เรียนคณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 10 หน่วยกิจ และวิทยาศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 18 หน่วยกิจ

กำหนดการ
รับสมัคร วันที่  29 สิงหาคม ถึง 5 ตุลาคม 2555
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ 19 ตุลาคม 2555
สอบสัมภาษณ์ 31 ตุลาคม 2555
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าศึกษา 8 พฤษจิกายน 2555
รายงานตัวยืนยันสิทธิ์และจ่ายค่าธรรมเนียม 13-20 พฤษจิกายน 2555

ค่าสมัคร 300 บาท


[ีรับตรง] - มศว ประกาศเตือน! ดูคู่มือให้เข้าใจทุกข้อ ก่อนไปสอบตรง



UploadImage

คู่มือการสอบคัดเลือกระดับปริญญาตรี (สอบตรง) มศว ปีการศึกษา 2556

ขอให้ผู้เข้าสอบศึกษาคู่มือการสอบคัดเลือกเข้าเป็นนิสิตระดับปริญญาตรี (สอบตรง) มศว ปีการศึกษา 2556 ศึกษาให้ละเอียด


มีทั้งหมด 4 หน้า

หน้า 1-2 จะเป็นของวันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2555

หน้า 3 - 4 จะเป็นของวันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2555

ขอให้ผู้เข้าศึกษาและทำความเข้าใจล่วงหน้า หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ 026495000 ต่อ 15716

ตัวอย่างคู่มือที่ควรรู้

1. การสอบครั้งนี้มีสถานที่สอบ 3 แห่ง คือ อิมแพคเมืองทองธานี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี
โดยมีการสอบทั้งภาคเช้า (เวลา 09:00 – 12:00 น.) และภาคบ่าย (เวลา 13:30 – 17:00 น.)

ยกเว้นวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม 4 สาขาวิชา (การจัดการธุรกิจไซเบอร์ การสื่อสารเพื่อการจัดการนวัตกรรม การสื่อสารเพื่อการท่องเที่ยว การสื่อสารเพื่อสุขภาพ) จะสอบเฉพาะภาคเช้าเท่านั้น

2. ในการสอบภาคเช้าแต่ละสาขาวิชาจะสอบ 3-4 ฉบับ และใช้กระดาษคำตอบแผ่นเดียวกัน มี 2 หน้า ตอบได้ 4 ฉบับ

3. ให้ผู้เข้าสอบกรอกหัวกระดาษคำตอบโดยเขียน ชื่อ-นามสกุล ลายเซ็น สถานที่สอบ (ให้ระบุแถวหรือห้องสอบ) วิชา (ให้ระบุสาขาวิชาที่สอบ) และรหัสเลขที่นั่ง สอบ 13 หลัก (ไม่ใช่เลขประจำตัวประชาชน) ให้ชัดเจนด้วยปากกา และระบายรหัสเลขที่นั่งสอบด้วยดินสอ 2B เท่านั้น ตามตัวอย่างกระดาษคำตอบในหน้าที่ 2

4. ประตูห้องสอบจะเปิดให้ผู้เข้สอบเข้าได้เวลา 07:30 น. ให้ผู้เข้าสอบนั่ง ประจำที่ตามแถวและเลขที่นั่งสอบที่ติดไว้บนโต๊ะให้ถูกต้อง พร้อมนำหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวนักเรียน หรือบัตรที่มีรูปถ่ายที่ทางราชการออกให้วางไว้บนโต๊ะเพื่อรอการตรวจสอบ ถ้าไม่มีหลักฐานดังกล่าวจะไม่มีสิทธิ์สอบ ห้ามนำเอกสารใดๆ เข้าห้องสอบโดยเด็ดขาด

 รายละเอียดสอบตรง

[ข่าว] - สพฐ. ร่อน จม. ถึง ร.ร. แล้วให้ใช้ O-NET 20% ประกอบการพิจารณาจบหลักสูตร



UploadImage


สพฐ. ให้ใช้ O-Net ประกอบการพิจารณาจบช่วงชั้น โดยเลือกแนวทางใช้ O-Net มาถ่วงน้ำหนักคะแนน GPA ของโรงเรียนในสัดส่วน 80:20


          หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เสนอให้ใช้คะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) มาเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการประเมินการจบการศึกษาในแต่ละช่วงชั้น นั้น ได้ข้อสรุปออกมาแล้ว ซึ่งทาง สพฐ.ได้พิจารณาเห็นชอบให้ใช้คะแนนจากผลการทดสอบ O-NET ของนักเรียนมาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินผลการเรียนของนักเรียนที่จบการเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ทั้งระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) โดยนำคะแนน O-Net มาถ่วงค่าน้ำหนักคะแนน GPA ในสัดส่วนคะแนน GPA ต่อคะแนน O-Net ที่ 80:20 และจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีการศึกษา 2555 เป็นต้นไป


          ทั้งนี้ ทาง สพฐ. ได้ดำเนินการส่งจดหมายเพื่อแจ้งให้แต่ละโรงเรียนรับทราบโดยทั่วกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนในเรื่องของหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่จะใช้ในการพิจารณาจบหลักสูตรนั้น ทีมข่าว ENN จะติดตามมาแจ้งต่อไป...


ภารดี วงค์เขียว
ศูนย์ข่าวการศึกษาไทย

[ข่าว] - สพฐ.เปิดผลวิเคราะห์O-Net ป.6 ภาษาไทย คณิต อังกฤษ พัฒนาการพุ่ง



UploadImage

สพฐ. เปิดเผย ผลวิเคราะห์ O-Net ปี 2554 ชั้นประถมศึกษาปีที่6 พบว่าวิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ มีพัฒนาการแบบก้าวกระโดดชัดเจน ส่วนวิชาวิทยาศาสตร์ คงที่

นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า สำนักทดสอบทางการศึกษา สพฐ. ได้รายงานผลการวิเคราะห์คะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-Net ปีการศึกษา 2554 ของระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นช่วงชั้นที่ สพฐ.ให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะทางด้านภาษา และการคิดคำนวณ โดยพบว่ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ มีพัฒนาการแบบก้าวกระโดดชัดเจนมากที่สุด ซึ่งวิชาภาษาไทยมีพัฒนาการสูงขึ้น 18 คะแนน จากปีที่แล้ว ,วิชาคณิตศาสตร์ มีพัฒนาการสูงขึ้น 17 คะแนน ,และภาษาอังกฤษ มีพัฒนาการสูงขึ้น 17 คะแนน สำหรับกลุ่มสาระฯ ที่มีพัฒนาการคงที่คือ วิชาวิทยาศาสตร์ ดังนั้นจึงต้องศึกษารายละเอียด และวิเคราะห์เป็นรายสมรรถนะ เพื่อเชื่อมโยงไปสู่แนวทางในการปรับปรุงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ต่อไป
นายชินภัทร กล่าวอีกว่า เมื่อวิเคราะห์โดยเปรียบเทียบโรงเรียนกลุ่มต่างๆ ที่มีลักษณะและรูปแบบการบริหารที่แตกต่างกัน พบว่า โรงเรียนมาตรฐานสากล และโรงเรียนกลุ่มเฉลิมพระเกียรติ มีคะแนนเฉลี่ยรวมทุกกลุ่มสาระฯ สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยรวมของประเทศ โดยกลุ่มที่มีคะแนนเฉลี่ยรวมสูงสุดคือ โรงเรียนมาตรฐานสากล รองลงมาคือ โรงเรียนกลุ่มเฉลิมพระเกียรติ ส่วนกลุ่มที่มีคะแนนเฉลี่ยรวมใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยรวมของประเทศคือ โรงเรียนในฝัน และรองลงมาเล็กน้อยคือ โรงเรียนดีประจำตำบล



ขอบขอบคุณ ศูนย์ข่าวเยาวชน

[ข่าว] - ค้านแก้สำนวน “รักลูกให้กอด” ชี้ผิดความหมาย-แนะไปแต่งใหม่



UploadImage

ปูชนียบุคคลภาษาไทยค้านเปลี่ยนสำนวนไทยเป็น “รักวัวให้ผูก รักลูกให้กอด” ชี้ความหมายวรรคหน้าและหลังไม่สอดคล้อง ทำให้เกิดความสับสนเข้าใจผิดในสำนวนไทย แนะให้แต่งใหม่เพื่อรณรงค์โดยเฉพาะ อย่าดัดแปลงอย่างไม่เข้าใจราก

รศ.ยุพร แสงทักษิณ ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย ประจำปี 2555 ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและวรรณคดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการพัฒนาการเด็กปฐมวัยแห่งชาติเห็นชอบเสนอเปลี่ยนสำนวนไทย "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" เป็น "รักวัวให้ผูก รักลูกให้กอด" เพื่อส่งเสริมความอบอุ่นในครอบครัว ว่า ขอเสนอแนะให้แต่งคำขวัญขึ้นมาใหม่เพื่อใช้รณรงค์ตามวัตถุประสงค์ ไม่ควรเอาสำนวนไทยโบราณมาดัดแปลง โดยเฉพาะกรณีดังกล่าว วรรคหลังที่แต่งขึ้นใหม่ ไม่สอดคล้องกับวรรคหน้าอย่างชัดเจน

รศ.ยุพร อธิบายว่า ประโยคว่า "รักวัวให้ผูก" เป็นการทำโทษผูกวัวที่มักเดินไปที่ต่าง ๆ แล้วสร้างความเสียหาย เพื่อไม่ให้วัวเดินไปเหยียบไร่นาของชาวบ้าน แล้วถูกทำร้าย เพื่อให้มันปลอดภัย ส่วน "รักลูกให้ตี" หมายความว่าเป็นการลงโทษลูกด้วยความรัก ให้เกิดความเข็ดหลาบ ไม่กระทำความผิดอีก ในสมัยโบราณใช้วิธีการตี แต่ในปัจจุบันอาจเป็นการตัดลดเงินค่าขนมก็ได้ ทั้งสองวรรคจึงหมายถึงการลงโทษด้วยความรักเพื่ออนาคตที่ดีทั้งของวัวและของลูก ดังนั้น หากนำ "รักลูกให้กอด" มาแทน จึงขัดแย้งและทำให้เกิดความสับสนในสำนวนไทย ทั้งนี้ จะใช้ประโยคว่า "รักลูกให้กอด" เพียงวรรคเดียว หรือจะแต่งใหม่ทำนองว่า "กอดลูกวันละครั้ง สร้างพลังความรัก" ก็ย่อมได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขสำนวนไทยที่ใช้กันมาแต่โบราณ

"ยกตัวอย่างว่า ลูกคนใหญ่คนโต ไปทำร้ายใคร จะให้พ่อแม่สั่งสอนด้วยการกอดปลอบลูกเอาไว้หรือ ฉะนั้นอย่าเอาสองประโยคนี้มาเข้ากัน ถ้าเรารัก เราเมตตา เราเห็นแก่อนาคตของลูกก็ควรต้องทำโทษ ให้อยู่ในระเบียบวินัย มีความประพฤติดี" รศ.ยุพร กล่าวและว่า การดัดแปลงสุภาษิตสำนวน โดยไม่เข้าใจรากความหมายและบริบทที่แท้จริง จะทำให้เกิดความเข้าใจสับสนในสำนวนไทยมากขึ้น


Credit : ENN.co.th

[ข่าว] - “ศรีปทุม” ตั้งเป้า 5 ปีติดท๊อปไฟว์มหาวิทยาลัยไซเบอร์ระดับอาเซียน


UploadImage


“ระบบ อีเลิร์นนิ่ง (E-Learning) ของมหาวิทยาลัยศรีปทุม จะต้องเป็นระดับเวิลด์คลาส ซึ่งหมายถึงเป็นระบบการเรียนอีเลิร์นนิ่งมาตรฐานระดับโลก และทั่วโลกสามารถเข้าใช้งานได้ทุกที่” คำกล่าวของ ผศ.ดร.วิรัช เลิศไพฑูรย์พันธ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม
UploadImage

ในปี 2554 ม.ศรีปทุมได้รับรางวัลชนะเลิศการ      จัดการอีเลิร์นนิ่ง ในงานประชุมวิชาการระดับชาติ ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นสิ่งที่การันตีได้ว่าการเป็นอีเลิร์นนิ่งระดับเวิลด์คลาสไม่ไกลเกิน ไป

ผศ.ดร.วิรัช กล่าวว่า อีเลิร์นนิ่ง คือเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่ง ม.ศรีปทุมกำหนดเรื่อง “อีเลิร์นนิ่ง” เป็นยุทธศาสตร์หลัก และตั้งเป้าภายใน 5 ปี จะกลายเป็นมหาวิทยาลัยด้านไอซีทีที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของมหาวิทยาลัยในแถบอาเซียน

เส้นทางการเป็นมหาวิทยาลัยด้านไอซีทีของ ม.ศรีปทุมเริ่มขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และมีการลงทุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเรื่องอีเลิร์นนิ่งเพิ่งเป็นที่ยอมรับในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

หลังการเรียนรู้แบบ อีเลิร์นนิ่ง เป็นที่ยอมรับ ม.ศรี ปทุมได้ตั้ง “สำนักการจัด การศึกษาออนไลน์” หรือ    Office of Online   
Education : OOE ขึ้นเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2553 เพื่อดูแลเรื่องการศึกษาออนไลน์ และรับผิดชอบการทำอีเลิร์นนิ่งผ่าน www. e-learning.spu.ac.th

“วัตถุประสงค์ของการทำอีเลิร์นนิ่งของ ม.ศรีปทุมวันนี้ คือ ใช้เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการเสริมความรู้ และทบทวนบทเรียน โดยข้อมูลที่นำเสนอในอีเลิร์นนิ่งจะเสมือนเป็นห้องเรียนจริง เพราะมีระบบที่ให้นักศึกษาสามารถทบทวนข้อมูลที่เรียนไปแล้ว และสามารถทำข้อสอบผ่านระบบออนไลน์ได้”

ผศ.ดร.วิรัช กล่าวต่อว่า ระบบอีเลิร์นนิ่งของ ม.ศรีปทุมกำลังจะเรียกใหม่เป็น เอ็มเลิร์นนิ่ง (M-Learning) มาจาก Mobile Learning ซึ่งเปิดใช้งานบนอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ได้ทุกแพลตฟอร์ม ทั้งไอโอเอส ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และพร้อมจะรองรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ที่กำลังจะเปิดตัว

สำหรับเนื้อหาวิชาเรียนในระบบอีเลิร์นนิ่งของ ม.ศรีปทุมมีครบ 11 คณะ เกือบทุก   สาขาวิชาที่เรียนในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของมหาวิทยาลัย ปัจจุบันอาจารย์ของ ม.ศรีปทุม 80% เข้ามาใช้งานและสร้างเนื้อหาในระบบอีเลิร์นนิ่ง ยกเว้นบางวิชาที่ไม่นำเข้าระบบอีเลิร์นนิ่ง เช่น วิชาสัมมนา และวิชาวิจัย เนื่องจาก   ไม่เหมาะสมที่จะทำเพราะเป็นวิชาที่ต้องคุยตัวต่อตัว

ปัจจุบัน ม.ศรีปทุมลงทุนเรื่องโครง สร้างไอซีทีเพื่อเดินหน้าอีเลิร์นนิ่งไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท โดยปีหน้าตั้งเป้าจะเปิดหลักสูตรมหาบัณฑิตออนไลน์ที่เรียนผ่านอินเทอร์เน็ต

“สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้กลับมาจากการลงทุนกว่าร้อยล้านบาท คือ มุมมองจากสายตาของประชาชนทั่วไปว่า ม.ศรีปทุมเป็นสถาบันการศึกษาคุณภาพที่สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต” ผศ.ดร.วิรัช กล่าว.


พันธมิตร “อีเลิร์นนิ่ง ม.ศรีปทุม”

สำหรับการทำระบบอีเลิร์นนิ่งของ ม.ศรีปทุม มีพันธมิตรร่วมดำเนินงาน ประกอบด้วย บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด รับหน้าที่จัดทำโซลูชั่นอีเลิร์นนิ่ง พร้อมพัฒนาระบบอีเลิร์นนิ่งให้รองรับการใช้งานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง ไอโอเอส แอนดรอยด์ และวินโดวส์ 8 เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของนักศึกษา ส่วนเอส เอส เอ เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) ทำหน้าที่วางโครงสร้างพื้นฐานไอทีให้กับมหาวิทยาลัย เพื่อรองรับการใช้งานของนักศึกษาได้พร้อม ๆ กันครั้งละหลายหมื่นคน ซึ่งจากการทดสอบ พบว่า นักศึกษาสามารถเข้าใช้งานระบบอีเลิร์นนิ่งได้พร้อมกัน 3 หมื่นคน.

“อีเลิร์นนิ่ง-ม.ศรีปทุม” พร้อมรับเปิดอาเซียน

นายวรสรวง ดวงจินดา ผู้อำนวยการ สำนักการจัดการศึกษาออนไลน์ (Office of Online Education :OOE) กล่าวว่า ม.ศรีปทุม มีบริการอีเลิร์นนิ่งในทุกคณะโดยใช้ซอฟต์แวร์ระบบมูเดิ้ล (Moodle– Modular Object-Oriented Dynamic Learning Environment) สร้างคอร์สแวร์อีเลิร์นนิ่ง เพื่อรองรับการเรียนการสอนของอาจารย์ และระบบบันทึกการสอนในห้องเรียนอัตโนมัติ ตั้งแต่ปี 2554 และจากการเก็บข้อมูลพบว่า ในปี 2554 มีคนเข้าใช้งานเว็บไซต์ www.e-learning.spu.ac.th กว่า 1 แสนราย โดยจำนวนนี้มีนักศึกษาเข้ามาใช้งานเป็นประจำถึง 60% สำหรับเป้าหมายการเข้าใช้งานในปีนี้ตั้งไว้ที่ 1.5 แสนราย ขณะนี้ยอดการใช้งานครึ่งปีที่ผ่านมา (ม.ค.-มิ.ย.55) อยู่ที่ 60,000 ราย และมีจำนวนนักศึกษาเข้าเว็บไซต์ซ้ำถึง 65%

“การเข้าใช้งานระบบอีเลิร์นนิ่งของ ม.ศรีปทุม จะมีรหัสผ่านเพื่อความปลอดภัย และกำหนดระดับสิทธิการเข้าดูข้อมูลที่แตกต่างกัน เช่น สิทธิของนักศึกษาจะสามารถเข้าดูอีเลิร์นนิ่งของรายวิชาที่ลงทะเบียนได้เท่า นั้น”

นายวรสรวง กล่าวต่อว่า หลักการใช้งานของ อีเลิร์นนิ่ง คือ นักศึกษาสามารถเข้าใช้งานอีเลิร์นนิ่งเพื่อทบทวนบทเรียนที่ไหนก็ได้ และสามารถควบคุมการนำเสนอข้อมูลได้เอง พร้อมทั้งมีเว็บบอร์ดให้นักศึกษาเข้ามาตั้งคำถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจโดยมี อาจารย์ผู้สอนเข้าไปตอบ เพื่อชี้แนะให้นักศึกษาโดยไม่ต้องรอถามในห้องเรียน ซึ่งสิ่งเหล่านี้บ่งบอกว่าโลกการเรียนรู้ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

จากการเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานอีเลิร์นนิ่งม.ศรีปทุม พบว่า ในปี 2554 มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ e-learning.spu.ac.th จากทั่วโลก ดังนั้น ถ้าเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community :AEC) ในปี 2558 ระบบอีเลิร์นนิ่งของมหาวิทยาลัยศรีปทุมก็รองรับการเรียนรู้อย่างไร้ขีด จำกัด.

ที่มา - เดลินิวส์ออนไลน์

[กิจกรรม] - ระกวดเรื่องสั้นเฉลิมพระเกียรติ “วีรบุรุษแห่งแผ่นดิน”


UploadImage

สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศ ไทย,มูลนิธิสกุล ณ นคร และสายสัมพันธ์ ,สำนักพิมพ์กรีน-ปัญญาญาณ และ บริษัท ท็อปโมสต์ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ร่วมกับ องค์กรภาครัฐ และภาคเอกชน จัดโครงการ “TOPMOST-ปลูกปัญญาเฉลิมพระเกียรติ” ภายใต้แนวคิด “ปลูกปัญญาเยาวชนให้สำนึกรักบ้านเกิด” ด้วยการส่งมอบหนังสือนวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่อง “มหาราช ๒ แผ่นดิน” สู่ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี”, ห้องสมุดประชาชนประจำจังหวัด และห้องสมุดโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน (สพฐ.) ทั่วประเทศ ดังนี้

ห้องสมุดประชาชนประจำจังหวัด ๗๗ จังหวัดๆ ละ ๙ แห่ง ๆ ละ เล่ม  จำนวน ๖, ๒๓๗ เล่ม

ห้องสมุดโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)  จำนวน  ๓, ๐๒๔ เล่ม
    

ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี”๕๗ จังหวัด ๘๒ แห่ง ๆละ ๙ เล่มจำนวน ๗๓๘ เล่ม รวมทั้งสิ้น  ๙, ๙๙๙ เล่ม

หลังจากมอบหนังสือนวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่อง“มหาราช ๒ แผ่นดิน”  แล้ว จัดให้มีการประกวดเรื่องสั้นเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อดีตกษัตริย์สยามสายเลือดจีน ผู้กอบกู้เอกราชด้วยความรักความเสียสละและหวงแหนแผ่นดิน  โดยกำหนดให้ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดนำ นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ เรื่อง “มหาราช ๒ แผ่นดิน” เป็นต้นแบบในการเขียนเรื่องสั้นเพื่อโน้มนำผู้อ่านร่วมรำลึกนึกถึงวีร กษัตริย์สยามประเทศ พร้อมกันนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตัดสินหาผู้รับรางวัลตามประเภทที่กำหนดโดยจะมี พิธีมอบรางวัลในวันที่ ๖ พฤศจิกายน  ๒๕๕๕ (วันครบรอบ ๒๔๕ ปีแห่งการประกาศเอกราชของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หลังทรงชนะทัพพม่าในวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๓๑๐) 

เนื้อหาสาระ
ให้เป็นการประกวดในหัวข้อ “วีรบุรุษแห่งแผ่นดิน” มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับ ชีวิต ความคิด และวัฒนธรรมของประชาชนกลุ่มต่างๆ (ชาติพันธุ์ ศาสนา สถานภาพทางสังคม) ผูกเนื้อเรื่องไปถึงความเสียสละของวีรบุรุษในพื้นถิ่น หรือนำเนื้อเรื่องไปสู่ความเสียสละของวีรบุรุษในอดีตเป็นเชิงเปรียบเทียบ  หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง  หรือเป็นภาพรวม  โดยให้ตั้งชื่อเรื่องใหม่ของตนเอง

คุณสมบัติงานเขียน
๑. ให้เขียนเป็นเรื่องสั้น (Short story) กำหนดความยาวดังนี้
ประเภทประชาชนทั่วไป   -ความยาวไม่เกิน ๑๐ หน้า
ประเภทอุดมศึกษา            -ความยาวไม่เกิน  ๘  หน้า
ประเภทมัธยมศึกษา          -ความยาวไม่เกิน  ๔ หน้า

๒. ให้เขียนเป็นภาษาไทย

๓. สร้างสรรค์ขึ้นเอง   ไม่แปล  หรือแปลงจากงานเขียนของผู้อื่น   กรณีที่มีการลอกเลียนผลงานของผู้อื่น  คณะกรรมการผู้จัดประกวดฯ จะดำเนินการตามกฎหมายลิขสิทธิ์ทันที

๔. เป็นงานที่เขียนขึ้นใหม่ ไม่เคยตีพิมพ์หรือรวมเล่มมาก่อน และระหว่างที่ส่งเข้าประกวดห้ามส่งให้นิตยสาร หนังสือพิมพ์หรือสำนักพิมพ์เพื่อการตีพิมพ์

 ประเภทการประกวดและเงินรางวัล,ทุนการศึกษาแบ่งออกเป็น ๓ ประเภท คือ

๑.ประเภทประชาชนทั่วไป
รางวัลชนะเลิศ                                                       ๒๐,๐๐๐.-  บาท
รางวัลรองชนะเลิศ  อันดับหนึ่ง                             ๑๕,๐๐๐.-  บาท
รางวัลรองชนะเลิศ  อันดับสอง                              ๑๒,๐๐๐.-  บาท

๒.ประเภทอุดมศึกษา
รางวัลชนะเลิศ (ทุนการศึกษา)                                 ๑๕,๐๐๐.- บาท
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับหนึ่ง (ทุนการศึกษา)           ๑๐,๐๐๐.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ  อันดับสอง  (ทุนการศึกษา)            ๘,๐๐๐.-บาท

  ๓.ประเภทมัธยมศึกษา
รางวัลชนะเลิศ (ทุนการศึกษา)                                     ๑๒,๐๐๐.- บาท
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับหนึ่ง  (ทุนการศึกษา)              ๘,๐๐๐.-บาท
รางวัลรองชนะเลิศ  อันดับสอง  (ทุนการศึกษา)              ๖,๐๐๐.-บาท

            หมายเหตุ. ผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทได้ร่วมเดินทางไปสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช ที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดระยอง  ในระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๕ (วันที่ ๒๘ ธันวาคม เป็นวันปราบดาภิเษกและวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) และร่วมเดินทางไปสักการะสุสานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่เมืองเถ่งไฮ้ ประเทศจีน ระหว่างวันที่ ๔-๙ เมษายน ๒๕๕๖ (ครบรอบ ๒๓๑ ปีแห่งวันวันสวรรคต ทรงสวรรคต เมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๓๒๕)

           คุณสมบัติผู้ส่งผลงานประกวด
  ๑. เป็นผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นถิ่นที่มีการสดุดีวีรกรรมวีรบุรุษ-วีรสตรีใน พื้นถิ่นนั้น หรือเป็นผู้สืบค้นข้อมูลทางประวัติศาสตร์แล้วนำมาเขียนอ้างอิงโดยผู้ส่งผล งานต้องแสดงหลักฐานเป็น สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาบัตรนักเรียน นักศึกษา หรือหลักฐานการประกอบอาชีพ
๒. ผู้ส่งผลงานยังมีชีวิตอยู่ในวันส่งผลงานเข้าพิจารณารับรางวัล   

 เงื่อนไขการส่งผลงานประกวด
๑.ให้พิมพ์ หรือเขียนด้วยลายมือตัวบรรจงหน้าเดียว ส่งประกวดจำนวน ๑ ชุด   และผู้ส่งผลงานต้องทำสำเนาเก็บไว้เอง คณะกรรมการผู้จัดประกวดฯไม่ส่งต้นฉบับคืน

๒. ใส่ชื่อจริง นามสกุลพร้อมที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ และเบอร์โทรศัพท์(ถ้ามี) ไว้ในต้นฉบับด้วย

๓. ส่งผลงานทาง Email ที่  theherothailand@gmail.comหรือส่งจดหมายลงทะเบียนทางไปรษณีย์ ถึง

                   ศูนย์ประสานงานโครงการ“TOPMOST-ปลูกปัญญาเฉลิมพระเกียรติ”
                   ๕๐๕ ถนนพระราม ๒แสมดำ บางขุนเทียน  กรุงเทพฯ รหัสไปรษณีย์  ๑๐๑๕๐
                ประสานงานโปรดติดต่อ นายวรุตม์ นกยูงทอง ฝ่ายบริหารโครงการฯ  โทร.๐๘-๔๘๙๙-๐๙๓๙

              ระยะเวลาส่งผลงานและการประกาศผล
สิ้นสุดการรับเรื่องสั้นเฉลิมพระเกียรติที่ส่งเข้าประกวดภายในวันศุกร์ที่ ๑๒ ตุลาคม  ๒๕๕๕

ในกรณีส่งทางไปรษณีย์ จะดูตราประทับวันที่ส่ง
ประกาศผลการตัดสิน        ภายในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕
กำหนดจัดงานรับรางวัล     จะประกาศให้ทราบภายหลัง

 ลิขสิทธิ์และการเผยแพร่ผลงาน
ผลงานที่ได้รับรางวัล  คณะกรรมการฯ ขอลิขสิทธิ์จัดพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกภายในกำหนดเวลา  ๒ ปี หลังจากนั้นลิขสิทธิ์วรรณกรรมจึงตกเป็นของผู้ส่งผลงาน
(การจัดพิมพ์เผยแพร่จะคัดเลือกผลงานของผู้ได้รับรางวัลตามลำดับผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ๑-๒ทุกประเภท รวม ๙ เรื่อง)

  คณะกรรมการที่ปรึกษากิตติมศักดิ์
๑.  พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
๒.พลตำรวจเอก วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
๓. หม่อมหลวงอนุพร เกษมสันต์ สำนักราชเลขาธิการ, รองเลขาธิการมูลนิธิเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ
๔. พลโทธนยศ ศิริกุล
หัวหน้าสำนักงานโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
๕.  พลโท วุฒิพงศ์ หอมวิเศษวงศา   ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก
๖. พลโทรวิช นกยูงทอง  อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก
๗. พล.ร.ต.พิทักษ์ พิบูลย์ทิพย์    เจ้ากรมอิเล็กทรอนิกส์ทหารเรือ
๘.พล.ต.ต.ดร.เสวก ปิ่นสินชัย  โปรโมเตอร์ของเวทีราชดำเนิน "ศึกอัศวินดำ"
๙. นายจาฤก กัลย์จาฤก ประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ,ประธานกรรมการบริหารบริษัท กันตนา กรุ๊ป
๑๐. นายธีระพงษ์ โสดาศรี   อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
๑๑. นางสุรีรัตน์ วงศ์เสงี่ยม   รองอธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
๑๒.นายศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ  กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีจีไอเอฟ คอร์ปปอเรชั่น จำกัด
๑๓. นายวัฒนา โมสิมาศ   กรรมการผู้จัดการ บริษัท นาคราชปิโตรเลี่ยม จำกัด
๑๔. อาจารย์นิพนธ์ ลิ้มแหลมทอง  รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (บางเขน)
๑๕.อาจารย์พิมพลักษณ์ บุญลือ  ผู้แทนจากกองทุนหมวดติ้ ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ
๑๖.นายสุวิช สุทธิประภา  รายการคุยโขมงบ่ายสามโมง สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี

คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ร่วมตัดสินมีทั้งสิ้น ๑๗ คน ประกอบด้วย
ผู้ทรงคุณวุฒิทำงานด้านความมั่นคง ๑ คน ได้แก่
1. พลโท ธนยศ  ศิริกุล   ประธานโครงการร้อยใจไทย ,หัวหน้าสำนักงานศูนย์ประสานงานโครงการพัฒนาตามพระ ราชดำริ ที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคม ๒ คน ได้แก่
๑.นายปณิธาน ณ นคร       เลขาธิการมูลนิธิสกุล ณ นคร และสายสัมพันธ์
๒.นายวรุตม์   นกยูงทอง   ผู้ออกแบบตราสัญลักษณ์ ๙ ในดวงใจ ผู้สร้างสรรค์บทภาพยนตร์เทิดพระเกียรติเรื่อง “ปิดทองหลังพระ”    ตอน ความฝันอันสูงสุด, ผู้เขียน นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ เรื่อง มหาราช ๒ แผ่นดิน

คณะกรรมการจากสื่อสารมวลชน ๑๔ คน ได้แก่

๑. นายธีระพงษ์ โสดาศรี   อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ประธานคณะกรรมการ
๒.นางสุรีรัตน์ วงศ์เสงี่ยม  รองอธิบดีกรมศิลปากรรองประธาน
๓.ผศ.นุจรินทร์ ศศิพิบูลย์ อดีตคณะบดีการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม  รองประธาน
๔. นายศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีจีไอเอฟ คอร์ปปอเรชั่น จำกัด   รองประธาน
๕.นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สำนักพิมพ์กรีนปัญญาญาณ จำกัดรองประธาน
๖. นายสุวิช สุทธิประภา รายการคุยโขมงบ่ายสามโมง สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวีกรรมการ
๗. นายศักดิ์ศรี บุญรังศรี  บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์กรีนปัญญาญาณ จำกัด กรรมการ
๘. นางไญยิกา เมืองจำนงค์  บรรณาธิการสำนักพิมพ์กรีนปัญญาญาณ จำกัดกรรมการ
๙.นายพันยศ ชินบัวสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร.ศ.๑๗๕ จำกัด กรรมการ
๑๐.นายเอกภพ พงษ์สุพัฒน์  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กรรมการ
๑๑.นายศิโรช มิ่งขวัญ  นายกสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กรรมการ
๑๒.นายนภดล ศรีทวีกาศ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก  กรรมการ
๑๓.นายวิสูตร ยิ้มละมัย  หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ กรรมการ
๑๔.นางสาววลัย พละสวัสดิ์ปฏิคมชมรมพยาบาลโรคไตแห่งประเทศไทย, นักเขียนอิสระ กรรมการ/เลขานุการ

Credit : ENN.co.th

28 ส.ค. 2555

[กิจกรรม] - ค่ายก้าวแรกสู่รังนก ครั้งที่6 วารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชล ม.ธรรมศาสตร์


เป็น ค่ายสำหรับน้องๆระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่สนใจคณะด้านนิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน เตรียมความพร้อมเรื่องการเรียน ทดลองทำงานในด้านสื่อสารมวลชน เช่น วิทยุและโทรทัศน์ โฆษณา สิ่งพิมพ์ ภาพยนตร์ ประชาสัมพันธ์ เป็นต้น และได้เรียนรู้การใช้ชีวิตมหาวิทยาลัย 
สามารถโหลดใบสมัครได้แล้วในเพจ jcnestcamp รับสมัครถึงวันที่5ตุลาคม เข้าค่ายวัน2-4 พฤศจิกายนค่ะ ^^
รายละเอียดทั้งหมด  http://www.facebook.com/jcnestcamp

[ค่าย] - อยากเป็นหมอ สโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ


งานเสวนาค่ายอยากเป็นหมอครั้งที่ 22 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่องานThe Insider ตามติดชีวิตแพทย์

ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่14 ตุลาคม 2555 เวลา7.00น.-13.00น. ครับ 
รับสมัครตามLinkนี้เลยครับ
https://docs.google.com/a/docchula.com/spreadsheet/viewform?formkey=dDdTbXdQYzBoYURyeXpPeFdYZWxQaWc6MQ
น้องๆม.ต้น ม.ปลาย และนิสิต นักศึกษา ผู้ปกครอง บุคคลทั่วไป สามารถมางานนี้ได้ครับ
หน้าหลัก  http://www.facebook.com/MDCUmedcamp

[ข่าว] - นศ.พยาบาลติดเอดส์ ร้องถูกไล่ออก สถาบันแจงหวั่นคนไข้หวาดกลัว


ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
3 นักศึกษาพยาบาล มหาวิทยาลัยคริสเตียน นครปฐม ยื่นเรื่องร้องคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ระบุโดนให้ออกจากภาควิชาที่เรียนอยู่โดยไม่เป็นธรรม ภายหลังผลตรวจเลือดปรากฏว่ามี"เชื้อเอชไอวี" ต้นตอโรคเอดส์ ขณะที่ผู้บริหารสถาบันยืนยันการตรวจเลือดจำเป็นต้องทำ เพราะนักศึกษาพยาบาลต้องออกไปปฏิบัติงาน "สัมผัส" กับผู้ป่วยจริงๆ ถ้าป่วยเป็นโรคร้ายแล้วออกไปทำหน้าที่อาจส่งผลเสียหายร้ายแรงตามมา ด้าน "จอน อึ๊งภากรณ์" ในฐานะคณะกรรมการเอดส์แห่งชาติ รุดเข้าหารือกับตัวแทนม.คริสเตียนแล้ว ชี้การที่บังคับให้น.ศ.ตรวจเลือด เป็นการไม่เคารพสิทธิผู้ติดเชื้อเอชไอวี และก่อให้เกิดปัญหาการเลือกปฏิบัติตามมา
จากกรณีนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน นครปฐม จำนวน 3 คน เข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อขอความเป็นธรรม ภายหลังทางมหาวิทยาลัยมีคำสั่งให้ออกจากการศึกษาวิชาชีพพยาบาลในชั้นปีที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องออกไปฝึกปฏิบัติงานจริงตามสถานพยาบาลต่างๆ เพราะตรวจพบว่าน.ศ.ทั้ง 3 รายมีเชื้อเอชไอวี ต้นเหตุโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือโรคเอดส์
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ส.ค. นายอุริส แจ้งเจริญ รักษาการรองอธิบการบดี ม.คริสเตียน ให้สัมภาษณ์ "ข่าวสด" ว่าเรื่องนี้มีรายละเอียดที่สามารถเปิดเผยได้บางส่วน กล่าวคือโดยระเบียบแล้วการตรวจโรคนักศึกษาถือเป็นมาตรฐานของทางมหาวิทยาลัย ทั้งที่ม.คริสเตียนและที่อื่นๆ ตั้งแต่ชั้นปี 1 นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ ม.คริสเตียน มีประมาณ 200-300 คน ซึ่งการตรวจโรคเมื่อชั้นปี 1 ไม่พบปัญหา หลังเรียนจบปี 2 เข้าปี 3 นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต จะต้องออกไปฝึกงาน ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยจริง
ฉะนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานที่ต้องรีเช็ก(ตรวจสอบซ้ำ) เรื่องสุขภาพของนักศึกษา หมายความว่านักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปี 3 ต้องผ่านการตรวจโรคอีกครั้งทุกคน แต่ผลการตรวจโรคพบว่ามีนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ปี 3 จำนวน 3 รายที่พบว่าเลือดมีปัญหาเกี่ยวกับโรคบางชนิด ทางมหาวิทยาลัยจึงเรียกนักศึกษาทั้ง 3 รายมาคุยทางลับเพื่อปกปิดตัวบุคคล
นายอุริส ระบุว่าทางมหาวิทยาลัยมีข้อเสนอแนะกับนักศึกษาทั้ง 3 ราย โดยแนะว่าควรย้ายภาควิชาที่เรียนไปสาขาอื่น เพราะโรคที่ตรวจพบจะเป็นปัญหากับผู้ป่วยที่นักศึกษากลุ่มนี้ต้องออกไปสัมผัส ขณะปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตาม หากนักศึกษาไม่ต้องการเปลี่ยนสาขาเรียน ต้องการพัก ทางมหาวิทยาลัยยินดีคืนค่าเทอมในชั้นปีที่ 3 ให้ซึ่งทั้ง 3 รายยอมรับการคืนค่าเทอมไป กระทั่งมาทราบว่าล่าสุดนักศึกษากลุ่มนี้ไปร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติ และในวันเดียวกันนี้ คณะกรรมการสิทธิฯ นั้นก็ได้เข้ามาพูดคุยขอข้อเท็จจริงและหาทางแก้ปัญหาต่อไป
นายอุริส ชี้แจงยืนยันด้วยว่ามหาวิทยาลัยคริสเตียนไม่ได้ตัดสิทธิ์นักศึกษา แต่ให้การปกป้องสิทธิ์ผู้ป่วยมากกว่า ต้องถือว่าทางมหาวิทยาลัยเป็นต้นแบบ เพราะหากปล่อยให้นักศึกษาที่มีโรคที่คนทั่วโลกหวาดกลัวออกไปสัมผัสกับผู้ ป่วยแล้วเกิดปัญหาขึ้นภายหลังจะเสียหายอย่างไร เสียหายทั้งสถานพยาบาล เสียหายทั้งสถาบัน เสียหายทั้งมหาวิทยาลัย
"จริงๆ แล้วมหาวิทยาลัยไม่ต้องการให้เกิดข่าวดังกล่าวขึ้น ต้องการปกป้องนักศึกษาทั้ง 3 มากกว่า ซึ่งการตรวจโรคเราก็ไม่ได้ตรวจเอง ตรวจโดยสถานพยาบาลที่สามารถรับรองผลได้ และหากตัวของนักศึกษาเองไม่มั่นใจก็ไปตรวจยืนยันได้ด้วยตนเองยังสถานพยาบาล ที่ออกใบรับรองการตรวจเลือดได้อีก อย่างไรก็ตาม หากผลการสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติออกมาอย่างไร คงต้องชี้แจงกับสื่ออีกครั้งต่อไป" รักษาการรองอธิบการบดีม.คริสเตียนกล่าว
วันเดียวกัน นายจอน อึ๊งภากรณ์ ประธานอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ คณะกรรมการเอดส์แห่งชาติ เปิดเผยภายหลังหารือกับผู้บริหารระดับสูงของม.คริสเตียนกรณีบังคับนักศึกษา สาขาวิชาพยาบาล สาขาวิชากายภาพ บำบัด และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ตรวจเลือดระหว่างปีการศึกษาเพื่อตรวจหาเชื้อเอชไอวี ว่า การบังคับตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวีของสถานศึกษาหรือสถานประกอบการขัดกับ หลักการเคารพสิทธิผู้ติดเชื้อเอชไอวี และก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติ
เนื่องจากเมื่อตรวจพบเชื้อเอชไอวี อาจทำให้บุคคลดังกล่าวถูกจำกัดสิทธิหรือถูกกีดกันในการเข้าเรียนหรือเข้าทำ งานได้ ฉะนั้นการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวี เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะเลือกตรวจหรือไม่ตรวจก็ได้ หากผู้ตรวจสมัครใจตรวจด้วยตัวเองจะต้องมีความพร้อมด้านจิตใจก่อน และผู้ให้การตรวจจะต้องมีบริการให้คำปรึกษาด้วย นอกจากนี้ ผลตรวจจะต้องรู้เฉพาะผู้ตรวจและผู้รับการตรวจเท่านั้น ไม่ควรส่งต่อไปยังบุคคลที่ 3 หรือผู้บริหารสถานศึกษา หรือนายจ้าง
"การติดเชื้อเอชไอวีเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ และผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังมีสุขภาพแข็งแรงไปอีกหลายสิบปี การบังคับตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อเอชไอวีอาจส่งผลให้เกิดการเลือกปฏิบัติทั้ง การเรียนและการทำงาน ทำให้ไม่มีทางออก จึงต้องรณรงค์ให้ประเทศไทยลดการเลือกปฏิบัติ เพื่อคุ้มครองสิทธิผู้ติดเชื้อเอชไอวี"นายจอน กล่าว
ประธานอนุกรรมการคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ ระบุว่า สำหรับทางม.คริสเตียน เมื่อพูดคุยหารือกับผู้บริหารแล้วพบว่ามีท่าทีรับฟังการชี้แจงของคณะกรรมการ เอดส์แห่งชาติ แต่ยังต้องขอปรึกษากับอธิการบดีอีกครั้งว่าจะเปลี่ยนนโยบายตรวจเลือดเพื่อหา เชื้อเอชไอวีหรือไม่อย่างไร ขณะเดียวกันทางคณะกรรมการจะเร่งรณรงค์สร้างความเข้าใจกับผู้บริหารสถานศึกษา และสถานประกอบการในเรื่องดังกล่าวต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยจะเริ่มจากกรณีที่ได้รับเรื่องร้องเรียนเข้ามาก่อน
(ข่าวสดรายวัน 28 สิงหาคม 2555)

[ไลค์สาระ] - แนะแนวข้อสอบ โควตา มหิดลเพื่อชาวชนบท 2556

UniGang ขอนำประสบการณ์ของพี่ในรุ่นก่อนมาแบ่งปันกันนะครับ  
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อน้องๆ
ให้เป็นแนวทางในการเตรียมตัวสอบ โควตาด้วยนะครับ  ^__^

เริ่มด้วยคนแรก  จากประสบการณ์สอบปีล่าสุด โควตา 2555    
พี่  Prangiiz Chor-Unchan ปัจจุบันเรียนอยุ๋แพทย์ชนบท มหิดล ปี 1  ขอฝากแนวข้อสอบถึงน้องๆนะคะ
เคมี-ไม่อยากมากออกสมการเคมีทั่วๆไปที่เคยเจอตามหนังสือเรียน มีออกบทอุตสาหกรรมด้วยซึ่งคิดว่าไม่น่าออก -*- เพราะมันเป็นความจำ มีกรด-เบส ข้อสองข้อ เลือกอินดิเคเตอร์ ไตเตรตทั่วไปประมาณนี้ ข้อสอบมี 30 ข้อ
ฟิสิกส์-ง่ายมากถ้าจำสูตรได้ทุกบท แทนค่าปุ๊บออกเลย มีออกเนื้อหาม.6 เทอม 2 เยอะเหมือนกันประมาน 5 ข้อจาก 20 มีทฤษฏีกับคำนวณปนๆกัน จำสูตรได้ทำได้
คณิต-ไม่ยาก วัดความรู้พื้นฐานทั่วไปออกแคลเยอะ มีสถิติหาพื้นที่ค่ามาตรฐาน อนุกรมประมาณสองข้อ ความน่าจะเป็นสามข้อ ไม่ยากเกินไปแล้วก็มีทฤษฏีกราฟหนึ่งข้อให้หากราฟต้นไม้ทั่วถึงที่มีค่าน้อย ที่สุด มีออกทฤษฏีบ้าง โดเมน เรนจ์ 1 ข้อ ข้อสอบมิ 20 ข้อ เมตริกหา det มิติ 4*4
อังกฤษ-เป็นpassage 4-5passage คำศัพท์ไม่ยากทั่วไป เป็นเรื่องเกี่ยวกับวงการแพทย์ซะส่วนใหญ่ cloze test ก็คล้ายๆ 15 พ.ศ แต่รู้สึกว่า error จะงง หาไม่ค่อยจะเจอ 55
ไทย-ออกความรู้รอบตัว เน้นวรรณกรรม ถามรางวัลซีไรต์ยอดเยี่ยมปีล่าสุด สำนวนต่างประเทศ คำไหนเขียนผอด ประโยคไหนต่างจากพวก ระดับภาษา ทั่วๆๆไปไม่ถึงกับยากมาก มี passage ถามใจความสำคัญ
สังคม-เน้นการปกครอง เศรษฐศาสตร์ เป็นเรื่องที่แบบ อืมเหมือนใช้จิตสำนึกตอบมากกว่า ไม่มีอะไร ไม่ต้องกังวล อาจจะอ่านเศรษฐศาสตร์ไปนิดหน่อยก็ได้
ชีวะ-งงมาก ออกเน้นพืชเฉยเลย เหมือนแค่ละปีเน้นคนละจุดกันเพราะรุ่นพี่บอกว่าๆไม่เน้นพืชนี่ออกนันพืช ความยากระดับ o-net วัด concept มากกว่า ไม่ซับซ้อนบางข้องงว่าถามแค่นี้เองหรอ -0-



ปี 2554  รุ่นพี่มาเล่าให้ฟังดังนี้

ถ้าเทียบกันในปีนี้
มข (โควตา) :
เคมี - ระดับความยากพอกัน
ฟิสิกส์ - เราว่ายากกว่า มข นิดนึง
ชีวะ - ปีนี้ มข ยากสุดๆไปเลย!
เลข - ไม่แน่ใจ แต่รู้สึกว่ามันยากพอๆกันนะ (หรือเพราะเราทำไม่ได้หว่า?)
ภาษาไทย - พอกัน
สังคม - มข ยากกว่ามากๆ! ความรู้รอบตัวสุดๆ มหิดลง่ายกว่า มันไม่อัพเดทมากเท่า มข
อังกฤษ!!! - เราว่ายากกว่า มข พอสมควรเลย + ยาวได้อีก!
มศว เราสอบ เคมี กศ.บ. อ่ะ
เลข - มหิดลยากกว่านะ แต่ไม่มาก
เคมี - พอกันนะคะ
อังกฤษ - ยังไงมหิดลก็ยากกว่าแน่นอนค่ะ
แต่ถึงมันจะยาก ในความคิดเรา มหิดลเน้นการวิเคราะห์ ยอมรับว่าเขาออกดีจริงๆค่ะ
น้องๆเตรียมตัวให้พร้อม แม่นในคอนเซ็ปต์พื้นฐานเป็นสำคัญค่ะ สู้ๆนะทุกคน
ขอให้พวกเราทุกคนติดคณะที่ตัวเองเลือกเถิด!
ปล. เราสอบ PI อิอิ ขอให้ติด PI สาธุ!
 
> phys ผิดเป็นสิบ!! ...เออข้อประไฟฟ้าตอบไรอ่ะ ไอ้ที่ Qๆ Rๆ
> ชีวะ ข้อที่ไม่แน่ใจคือ
- ข้อใดไม่ใช่การปรับตัวของพืช
ข้อที่ผิดแน่ๆคือ
- ข้อใดเปนพวกโทรโคฟอร์ (เราตอบ นีมาโทดกับอาร์โทรปอดอ่ะ จำสลับกับที่มันลอก โฮฮฮฮ)
- ทุ่งใหญ่นเรศวร เป็น สะวันนา (เี่ราตอบป่าผลัดไป เฮ้อออ)
- ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับประจำเดือน 7 วันหลังตกไข่ (เราตอบเอสโตรเจนต่ำ แต่จิงๆแล้ว มันสูงทั้ง E และ P เลย แงงงงง)
- ข้อใดสร้างเฮทเทอโรสปอร์(ไมโคร+เมกะ) ตอบ ข้อ ซีแลกจิเนลลา+จอกหูหนู(เฟินน้ำ) >>เราตอบข้อ ง สร้อยนางกรอง เพราะจำซีแลกจิแนลลาไม่ได้ว่าสร้างเฮเทอโรรึป่าว ฮืออออ
- ผลของการขาดพาราทอร์โมนที่มักพบ คือ >>ข้อนี้เราคิดลึกไปอ่ะ เราเลยตอบแค่ ก ข แต่ไม่ได้ชัก เพราะคิดว่า มันรุนแรงไป กำจริงๆๆ
- ข้อใดใช้ความร้อนสูงสุดในการสลายคู่เบส...ต้องตอบอันที่มี ซีกับจี เยอะๆใช้ม้าา แต่เรามืดแปดด้านไปเลยตอนเจอข้อนี้ เลยเดาเอา ผลก้คือ ผิดครับท่าน!! Y_Y
.....นึกได้เท่านี้เอง(แต่จิงๆคงผิดมากกว่านี้อ่ะ T^T)
>วิชาอืนก้มีผิดบ้าง(บ้างเหรอยะ!!) แต่ สองวิชาที่กล่าวมานั้นไซร้ ผิดเกินเยียวยาา

ฝากถึงน้องๆปีถัดไปดีกว่า
**เท่าที่สอบมาพี่ว่าสนามมหิดลเป็นสนามที่ง่ายที่สุดเลย(คหตส.) แต่ง่ายนี่ล่ะน่ากลัว เพราะเราไม่ได้ทำได้คนเดียว คนอื่นเค้าก้ทำได้เหมือนกัน ดังนั้น เราควรทำอย่างรอบคอบที่สุด เพราะการผิดทั้งๆที่รู้ เปนอะไรที่เจ็บใจมากๆๆๆๆ จิงมั้ย? (ประสบการตรงรึป่าว 55 ) แล้วผิดข้อหนึ่งคะแนนก้หายที่แบบบบบที่ว่าทำใจเราหายเหมือนกัน(ข้อละ2-5 คะแนนอ่ะคิดดูเถิดเล่า)
**แนะนำ ถ้าน้องคนไหนเรียนดาว้องก์อยู่จงตั้งใจเรียนให้ดีที่สุดนะคะ
 
วันศุกร์นอนไม่ค่อยหลับ เพราะนอนกลางวันมากไป!!
สอบที่สนาม ร.ร.สันติราษฏร์วิทยาลัย ตรงข้ามตึกอุ๊
ผมอยู่สุพรรณไปนอนค้างบ้านยายที่นนทบุรี
ตื่นมา นรก!!! ลืมเอาเข็มขัดไปจากบ้าน ไปเดินหาร้านขายเข็มขัดตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง
ไม่มี!!! ร้านไหนจะเปิดให้แก เดินตลาดประมาณ 10 นาที
ตัดสินใจ ใสเสื้อกันหนาวทับไว้ ทั้งๆที่อากาศก็สุดจะร้อน
(คนไหนสอบตึก 1 ร.ร.สันติราษฎร์จะเห็นไอผู้ชายคนนึงไม่ยอมถอดเสื้อกันหนาว - -")
จากนั้นนั่งมอไซรับจ้างไปที่ท่ารถตู้ นรก!!!
วันเสาร์อาทิตย์รถตู้นนท์-อนุเสาร์ย์ไม่วิ่ง จะขึ้นรถเมย์ก็กลัวรถติด
เอาละว่ะ TAXI ล่อไป 100 ท่วนๆ
ไปถึงพญาไทตั้งแต่ 7 โมง ไปซื้อกาแฟสดที่ 7-11 กิน กลัวเบลอตอนสอบนอนไม่ค่อยพอ
เรื่องรสชาติ อย่าไปพูดถึงมันน่ะ!!!
เดินไปกินขนมไปถึง ร.ร.เดินดูตึกหาห้องน้ำ เอาสังคมมาเปิดอ่าน(ยังไม่เคยหยิบสังคมมาเปิดอ่านเลย)
เข้าไปสอบ วิชาแรก เคมี-ฟิสิกส์ เปิดข้อสอบมาทำเคมีก่อนเลย เพราะโง่ฟิสิกส์มาก
แม้ว่าเคมีก็โง่มากแล้วก็ตาม แต่โง่ฟิสิกส์มากกว่า
เคมีทำไปเรื่อยๆ แอบดูนาฬิกาเป้นช่วงๆ มีบางข้อที่แปลกๆ
โดยเฉพาะถามเรื่องการอัดอากาศเป้นของเหลวได้เท่าไหร่ ส่วนตัวตอบ 1ลูกบาศก์มิลลิเมตร
ทำเสร็จไปทำฟิสิกส์ ถือว่าง่ายกว่า มข. มากๆ บางข้อชอส์แอบโง่ อีกต่างหาก
2 วิชาแรกก็ผ่านไปได้ด้วยดี
พักครึ่ง เดินไปเข้าห้องน้ำเจอเพื่อน เลยไปหาที่นั่งเม้าส์มอยกันไร้สาระสุดๆ
วิชาต่อไป คณิตศาสตร์ ยอมรับว่าข้อสอบพอทำได้ ไม่ยากไม่ง่าย เหมือนจะมีข้อสอบผิดอยู่ 2 ข้อ ผมก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน ทำไปเรื่อยๆ เพราะจำนวนข้อกับเวลาค่อนข้างสมดุลกัน ไม่เหมือน มข. 50 ข้อ 1 ชม.ห่ารากมากเลย
พักเที่ยง ผมซื้อข้าวกล่องจาก 7-11 มาตั้งแต่เช้า เลยไม่ต้องไปวุ่นวายกับใคร มานั่งกินข้าวกับเพื่อนเม้าส์มอยกันไป เริ่มรู้สึกง่วงอีกครั้งเราเลยคว้า Mmax มากิน(แนะนำว่าอย่าทำตาม)
วิชาต่อไป อังกิด-สังคมภาษาไทย อังกฤษคือวิชาที่ผมเกลียดที่สุดใน 3 โลก ดังนั้น
จึงข้ามไปทำภาษาไทยก่อน เปิดไปอ่านเจอข้อแรกเหงือแตกทันที ทำไปเรื่อยๆด้วยศิลปะการมั่วและการเดาอย่างมีเหตุและผล จนจนภายใน ครึ่งชั่วโมง
จากนั้นทำสังคมต่อ มีหลายๆข้ออ่านตรงกับเมื่อเช้าพอดี ถามไม่กว้าง แต่นั้นลึกและจำเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีวิเคราะห์ ถือว่าเป้นข้อสอบที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คห.ส่วนตัวน่ะ
ครบ 1 ชั่วโมงทำอังกฤษต่อ แม่เจ้าาาาาาาา ยากกกกกกกส์ ชิบ หายยยยยยยย
ยากแบบว่าไม่รู้จะสรรหาอะไรมายากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว แต่เราก็พยายามอ่านๆไปทำไป
โดยครั้งนี้ไม่แคร์เวลาแล้ว ทำได้ก็ทำไป ทำไม่ทันก็มั่วไปเว้ย!!!!!!
แม่เจ้าาาา ไปเซ็นต์ชื่อผู้สอบตรงคณะกรรมการคุมสอบ ชิบหายแล้วไงกรู พี่คุมสอบเดินมาลบให้พอดี แอบกลัวเหมือนกันว่าจะมีปัญหา เครื่องไม่ตรวจให้ T.T
พัก 30 นาที คราวนี้ไม่ได้เดินไปหาเพื่อน หาที่นั่งอ่านทบทวนชีวะเล็กน้อย ฟังเพลงทำสมาธิ วิชานี้แหละตรูจะคว้าคะแนนเต็ท(ไอเวอร์)
เริ่มสอบ =3= !@#%$%$ ไม่รู้จะอุทานเป็นภาษาอะไรดี มันยากได้อีก
พยายามเค้นความรู้ทั้งหมดทั้งมวลในสมอง มาตอบๆๆๆๆๆ ทำไปถอนหายใจไป
แบบว่า ทำเกือบได้น่ะ คือว่าจำได้น่ะไอคำนี้มันเกี่ยวกับอะไร แต่จำไม่ได้ว่ามันแปลว่าอะไรกันแน่!!!! ระหว่าง..... กับ .......(คือสรุปว่า ไม่แม่น!!!!)
ชีวะวิเคราะห์ก็เจือกรีบทำผิดอีก และแล้วก็สอบเสร็จ
เห้อออ...... ไปเดิน สยามดีกว่า... เดินสยามไป เริ่มแฮ้ง ปวดหัว ปวดตัวไปหมดตั้งแต่ ต้นคอยันข้อเท้า เนื่องจาก หมดฤทธิ์ Mmax
 
 
อังกฤษ ช่วงแรกเป็นบทสนทนาไม่ยาก ถัดมาเป็น cloze test (เติมคำลงในบทความ) พอทำได้ แล้วก็มีรีดดิ้ง ปิดด้วย error ที่ทำแล้วออกมาแล้ว error
ภาษาไทยมีหลักภาษา ตีความ และอื่นๆ <<<< ทำไม่ทัน T T
สังคม เราว่าไม่ยากนะ แต่ก็มึนได้ 555+
ข้อสอบที่พอจำได้ก็มี
ภาษาไทย
ข้อใดเขียน ผิด-ถูก-ถูก ----เราตอบข้อ 2 (ลืมคำตอบ แต่รู้ว่าข้อ 1 ไม่ใช่เพราะกงสุลเขียนถูก)
บทความถ่านไฟฉายตรากบ เป็นบทความที่แสดงหรือสื่อออกมาในลักษณะใด(เราจำคำถามจริงๆไม่ได้)
แล้วก็มีข้อความของผู้หญิงคนหนึ่งที่เราจำชื่อไม่ได้ 555 ข้อนี้เราตอบ การบรรยาย
สังคม
เวลาที่ไทยห่างจากเวลามาตรฐาน +7
จังหวัดที่ไม่ติดทะเล คือ ยะลา แต่เราตอบนราธิวาส -*-
การปกครองแบบระบอบฟาสซิสต์
สิ่งที่สำคัญสุดของการเป็นรัฐ --- อำนาจอธิปไตย
กลุ่มเศรษฐกิจใดเป็นกลุ่มเศรษฐกิจแบบ กลุ่มผลประโยชน์ ตัวเลือกมี eu asean opec อีกอันอะไรไม่รู้
ปัญหาพื้นฐานทางเศรษศาสตร์เกิดจาดอะไร
สามารถเข้าไปอ่านทั้งหมดได้ที่  http://www.unigang.com/Article/4705


 
ข้อสอบปี 2553  จาก ปากคำบอกเล่าของพี่ รุ่นก่อน http://www.unigang.com/Article/773
ภาษาอังกฤษ  60  ข้อ
  • ภาษาอังกฤษ หา Main Idea กันเจอไหมครับตรง Reading
  • refer คำว่า addle = confuse
คณิตศาสตร์ เรื่องที่ปีที่แล้วออก
set  ตรรกศาสตร์  อสมการ จำนวนเชิงซ้อน   ภาคตัดกรวย   ข้อเมตริกซ์ที่     สถิติ ส่วน สถิติ   ตรีโกน
ความน่าจะเปน     log  กำหนดการ เชิงเส้น อนุกรมทวินาม และอัตราการเปลี่ยน

วิทยาศาสตร์
  • ตอนที่ต้องหาสูตรโมเลกุล CxHy  
  • ดุลสมการรีด็อกซ์ 
  • จงบอกหมู่ฟังก์ชั่น ของ ยาโอเซลทามิเวียร์  ,
  • HDPE คืออะไร   ,
  • ข้อสอบจะมีรูปสารมาให้ดูแล้วตอบว่ามันคืออะไร 
  • ทำหมันต้องทำอย่างไร   ผูกท่อนำไข่ 
  • เซลล์พืชใดเมื่อเจริญเต็มที่แล้วไม่สลายตัว  sieve tube
  • สัญลักษณ์นิวเคลียร์  = p6 n7 e6 
  • ไฟฟ้าเคมี ที่ให้หา E0 cell
  • ข้อดุลสมการ  BCl3
  • ความต้านทานรวมลด , กระแสไฟ , ความต่างศักย์ และก็ กำลังไฟฟ้า
  • เยื่อไผ่...มันเป็นเห็ด อยู่ในดิวิชั่น เบสิดิโอไมโคตา
------------------------O จุด A
|
|
|
|
|
O จุด B

ฟิสิกส์ข้อนี้ตอบ ว่า 0 m/sกำลัง 2 ครับ
เรื่องนี้อยู่ในส่วนของ SHM ส่วนของ การแกว่งลูกตุ้มครับ

 
ข้อสอบภาษาไทย เหมือน O-NET  
กลอน อนิจจาความรัก พึ่งประจักษ์ดั่งสายน้ำไหล
wisdom of the land แปลว่าอะไร
คำว่า " มหิดล " แปลว่า อะไร
คนออกข้อสอบเอา เพลง ดินแดนแห่งรักมาออก ( จะบอกทำไมนิ )
สังคมศึกษา
  •  GDP  คืออะไร  GDP > คนไทยในไทย คน ตปท ในไทย
  • "เมืองดุสิตธานี" เป็นรากฐานสำคัญของการเมืองในระบอบประชาธิปไตย  สร้างโดยใคร
  • จังหวัดที่ไม่ติดทะเล
  • กรุงเทพ = บางขุนเทียน ติดทะเล
  • ฉะเชิงเทรา = มีทะเล ที่บางปะกง ครับ (ถามจากพ่อผมแล้วครับ)
  • พัทลุง = ติดทะเลสาป
  • ราชบุรี = มีทะเล ผสมน้ำจืด กลายเป็นน้ำกร่อยครับ จึงไม่นับเป็นทะเล
  • พระที่นั่งจักรี    สร้างเป็นแบบอะไร ตอบ ตะวันตกมั้ง
  • ยุคไหนเริ่มมีคนมีพืช
  • คนส่วนใหญ่ปฏิบัติ  หากใครไม่ปฏิบัติอาจโดนคนในสังคมดูหมิ่น...   แล้วพอใกล้จะจบมีคำว่าวิถีประชาในเนื้อความคำตอบมันมี     จารีต       วิถีประชา     เค้าว่ากันว่าตอบ วิธีประชา   
  • รูปวาดอาหารเมื้อสุดท้ายของพระเยซูวาโดยใคร
  • วิธีการแข้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เกินดุลอย่างอ่อน 
  • ทายาทโดยธรรม > ภรรยาบุตร
  • หน้าที่เเบงค์ชาติ > ปชช ฝากเงิน