20 ก.ย. 2555

[ข่าว] - ชี้ทางศธ.ปรับปฏิทินตามอาเซียนครม.ต้องเห็นชอบ- 'สมพงษ์' จี้สพฐ.ชั่งน้ำหนัก



UploadImage



          นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว ถึงกรณีนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศธ. ออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ลงวันที่ 14 ก.ย.ขอความร่วมมือสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดและกำกับทุกแห่ง ปรับปฏิทินการเปิดภาคเรียนทุกหลักสูตรเป็นช่วงเดือนส.ค.-ก.ย. ปีการศึกษา 57 เพื่อรองรับการศึกษาระดับสากลและเปิดประชาคมอาเซียน 58 ว่า การออกกฎกระทรวง ในแง่ของสถาบันอุดมศึกษาสามารถปฏิเสธได้ เพราะอำนาจมหาวิทยาลัยอยู่ที่สภามหาวิทยาลัยไม่ได้อยู่ที่กฎกระทรวง แต่ถ้ามองในอนาคตที่ไทยต้องเข้าสู่อาเซียน ถ้าต้องการให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งระบบ รมว.ศธ.ต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ เพราะเรื่องนี้ต้องทำเป็นนโยบายที่ชัดเจน และฟันธงได้ว่าในอีกไม่ถึง 3 ปี การศึกษาไทยทั้งระบบจำเป็นต้องปรับตามอาเซียนอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าสถาบันอุดมศึกษาไหนไม่ปรับเปิด-ปิดการศึกษาเหมือนมหาวิทยาลัยส่วน ใหญ่ จะตกวาระอาเซียนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะเป็นปัญหาทันที


          อ.ครุศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยืนยันไม่ปรับการเปิด-ปิดภาคเรียนตามที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) วิตกว่าจะเกิดปัญหาเด็กวิ่งรอกสอบอย่างรุนแรงนั้น เรื่องนี้เป็นปัญหาแน่นอน เพราะทุกวันนี้ รอยเชื่อมระหว่าง สกอ.กับ สพฐ.มีน้อยมาก และพูดกันคนละภาษา ในส่วนของสพฐ.ถ้ายังปฏิเสธการปรับ ก็ต้องคิดให้รอบคอบว่าผลกระทบระหว่างการวิ่งรอกสอบ กับการเลื่อนปิดเปิดอันไหนเป็นปัญหามากกว่า อันไหนสำคัญกับระบบการศึกษามากกว่า เพราะในขณะที่ระบบอาเซียนขับเคลื่อนไปทั้งยวง แต่ระบบการศึกษาไทยกลับนั่งถกเถียงกันอยู่ ไหนจะสถานภาพศธ.ที่ไม่มีความเสถียร รมต.ก็ไม่แน่ใจว่าจะอยู่นานหรือไม่ ทั้งปัญหาการเมืองและทะเลาะกับสื่อมวลชน การตัดสินใจเชิงนโยบายจึงคลุมเครือ ฉะนั้นรัฐบาลต้องชัดเจนเลยว่าจะปรับรัฐมนตรีหรือไม่ เพื่อให้ผู้ที่ต้องกำหนดนโยบาย วิสัยทัศน์ มาตรการ ในภาพรวมสะสางปัญหาเสียที




ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด