3 ส.ค. 2555

[ไลค์สาระ] - ผลไม้ ต้นเหตุฟันผุ จริงหรือ?


ผลไม้

ผลไม้ ต้นเหตุฟันผุ ?!? (She's smart)
โดย: รุจรดา 
 
          คุณผู้หญิงทั้งหลายคงชอบกินผลไม้กันใช่ไหมคะ เพราะนอกจากรสชาติแล้ว ผลไม้ยังเป็นอาหารวิเศษสำหรับรูปร่างอีกต่างหาก แต่คุณรู้ไหมคะว่า การกินผลไม้นั้นไม่ใช่แค่เลือกที่สดใหม่ ล้างสะอาด และกินเป็นประจำเท่านั้น แต่ต้องมีวิธีการกินที่ถูกต้องด้วย มิเช่นนั้นคุณอาจมีสุขภาพดี รูปร่างผอมเพรียวแต่ต้องมีอาการเสียวฟันให้ต้องหงุดหงิดใจได้
 
 ผลไม้ ต้นเหตุฟันผุ?

          เพราะในผลไม้มีกรดวิตามินซี เมื่อเรากินผลไม้เข้าไป กรดวิตามินซีเหล่านี้จะเข้าไปทำลายเคลือบฟันของเราให้บางลง แต่ไม่ใช่ผลไม้ทุกชนิดนะคะ ต้องเป็นผลไม้ที่มีกรดสูง ๆ อย่าง ส้ม มะม่วงเปรี้ยว ๆ และกรดเหล่านี้ก็ต้องอยู่ในช่องปากของเราเป็นเวลานาน ๆ ด้วย เพราะฉะนั้นคนที่ชอบผลไม้เปรี้ยว ๆ คงต้องระวังเป็นพิเศษสักหน่อยค่ะ
 
          และถ้าหลังกินผลไม้แล้วคุณแปรงฟันทันที นั่นยิ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพฟันของคุณค่ะ เพราะกรดจะเข้าไปทำให้ฟันอ่อนตัวลง การแปรงฟันทันทีเท่ากับทำลายเคลือบฟันไปโดยไม่รู้ตัว และเมื่อฟันไม่มีสิ่งปกป้องก็เกิดอาการเสียวฟันและผุได้ง่าย เมื่อปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ตัวฟันก็จะเล็กลงและสึกลงไปเรื่อย ๆ
 
          อีกอย่างนะคะ เคลือบฟันของคนเราเป็นสีขาว เมื่อถูกทำลายไปก็จะโชว์เนื้อฟันแท้ ๆ ซึ่งเป็นสีเหลือง ทำให้กลายเป็นคนฟันเหลือง เสียบุคลิกภาพ และทำลายความมั่นใจไปมากเชียวค่ะ
 
 กินผลไม้ให้เป็น

          วิธีกินผลไม้แบบอร่อยและปลอดภัยต่อสุขภาพฟันของเรา เพียงแค่ดื่มน้ำเปล่าตามมาก ๆ หลังจากกินผลไม้ และควรเว้นช่วงเวลาสักประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนค่อยแปรงฟัน โดยเฉพาะสาวออฟฟิศทั้งหลายที่ต้องรีบไปทำงานต่อ หลังรับประทานอาหารเสร็จ แล้ว อย่าลืมลดการกินผลไม้รสเปรี้ยวจี๊ดลงด้วยนะคะ
 
          แต่หากใครไปตรวจฟันแล้วพบว่า ฟันถูกกรดผลไม้ทำลายเคลือบฟันไปแล้วล่ะก็ คุณหมอจะรักษาโดยดูตามอาการว่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งก็จะมีตั้งแต่อุดฟันไปจนถึงครอบฟัน
 
          ถ้าไม่อยากให้ฟันมีตำหนิ ก็ต้องคอยดูแลรักษาฟันอย่างถูกวิธี ไม่เฉพาะแค่การกินผลไม้ที่เราเพิ่งแนะนำไปนะคะ แต่ยังมีการดูแลวิธีอื่น ๆ เช่น แปรงฟันทุกครั้งหลังกินอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง และอย่าลืมไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน เพียงเท่านี้คุณก็จะมีสุขภาพฟันที่แข็งแรงรอยยิ้มสดใสไว้อวดใครต่อใครได้อย่างมั่นใจแล้วค่ะ
 
          ขอบคุณ ข้อมูลจากทันตแพทย์หญิงฉัตรแก้ว โตษยานนท์ งานทันตกรรม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล



Credit : Kapook.com