29 ก.ค. 2555

[ข่าว] - ระบุโรค “คอมพิวเตอร์ วิชั่น ซินโดรม” กำลังคุกคามเด็กไทย


UploadImage

จักษุแพทย์ ห่วงเด็กไทยในยุคสังคมออนไลน์เป็นโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม เนื่องจากใช้โลกส่วนตัวเพ่งอยู่บนจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และจอมือถือ โดยพบว่ากลุ่มเด็กวัย 10-15 ปี เป็นกลุ่มที่มีปัญหาสายตาสั้นมากที่สุด

นายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรีกล่าวว่า เป็นห่วงสุขภาพเด็กไทยในโลกยุคดิจิตอล ซึ่งอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่มีบทบาทมากในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มหลักในการใช้สื่ออินเทอร์เน็ต เพราะสามารถเข้าถึงและรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้จากทุกมุมโลก โดยพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ มือถือ หรือแท็บเล็ต เป็นเวลานานของเด็กในปัจจุบัน นอกจากจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย คือกล้ามเนื้อหลัง ไหล่ คอตึง ทำให้มีอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดศีรษะแล้ว ยังเป็นปัญหาด้านสังคม ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้พฤติกรรมของเด็กที่ไม่มีใครสบตากับใคร เพราะต่างคนต่างอยู่ในโลกส่วนตัว จะหยิบโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตขึ้นมานั่งเล่นโดยไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว ขาดการสื่อสารกับคนในครอบครัวและคนรอบข้าง รวมถึงความก้าวร้าว หุนหันพลันแล่น รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นตามมาจากการเล่นเกมส์ เพราะต้องการเอาชนะให้ได้

นายแพทย์ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่า การใช้โลกส่วนตัวอยู่บนหน้าจอต่างๆ จะทำให้มีผลกระทบต่อสายตาโดยตรง เรียกว่า โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome) และมีผลต่อทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในวัยเด็กจะมีปัญหาสายตาสั้นเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากใช้ไม่ถูกวิธี เด็กมักจะก้มดูหน้าจอใกล้มากระยะห่างประมาณครึ่งฟุต ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดพบว่าเด็กอายุ 10-15 ปี เป็นกลุ่มที่มีปัญหาสายตาสั้นมากที่สุด เด็กจะมีสายตาสั้นในอัตราที่เพิ่มขึ้น จากการใช้แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์มาก การปรับระดับ ระยะห่างของจอภาพไม่เหมาะสมกับสายตา หรือวางเมาส์ไม่ได้ระดับกับแขน ความสว่างของแสงไฟ การนั่งเล่นเป็นระยะเวลานาน และมีโอกาสสายตาสั้นเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 30 เกิดปัญหาในการเรียน มองไม่เห็นกระดานเรียนหน้าชั้นตามมา

นายแพทย์ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อไปว่า ในการใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตอย่างถูกวิธี ซึ่งกรณีเป็นผู้ที่มีปัญหาทางด้านสายตาหรือมีสายตาผิดปกติอยู่แล้ว ควรเล่นไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง ไม่ควรเล่นในห้องมืด ควรปรับความสว่างให้มีความพอดีเท่ากับความสว่างของห้อง แสงไฟไม่ควรส่องจากด้านหลังเข้าหาจอ ปรับความคมชัดของจอคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับ 70-80 เฮิรตซ์หรือสูงสุดเท่าที่ยังรู้สึกว่าสบายตา และควรนั่งเล่นในท่าที่ถูกต้อง ให้ระยะห่างของสายตากับแท็บเล็ตหรือโทรศัพท์มือถือควรอยู่ห่างกันประมาณ 1-2 ฟุต

ข่าว-กรมประชาสัมพันธ์